คุณแม่ทั้งสวยทั้งสตรอง หอบลูก 2 คนตั้งร้านขายของข้างถนน เปิดเรื่องราวความรักอันแข็งแกรงน่าทึ่ง จนกลายเป็นไวรัลดังสนั่น
ภาพจาก Douyin
วันที่ 22 มกราคม 2568 เว็บไซต์ NetEase เผยเรื่องราวของ “หลินจิง” คุณแม่ลูกสองรายหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ซึ่งกำลังเป็นกระแสได้รับความนิยมอย่างมากบนสื่อออนไลน์ เธอเป็นคุณแม่ผู้มีหัวใจสุดแข็งแกร่ง หอบหิ้วลูกน้อย 2 คนไปขายของที่ข้างถนนด้วยกัน และด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสวยสะดุดตาของคุณแม่ ทำให้เธอได้รับความสนใจ ก่อนหน้านี้มีคนดังโซเชียลและบล็อกเกอร์หลายคนเคยไปถ่ายภาพเธอหลายครั้ง แต่เธอก็ยังคงใช้ชีวิตเป็นคุณแม่ธรรมดาที่แสนพิเศษสำหรับลูก ๆ
หลินจิงทำงานหาเงินด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี ตอนเธออายุ 18 ปี เธอตกหลุมรักชายคนหนึ่งและให้กำเนิดลูกชายคนโต ซึ่งตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ตอนลูกชายอายุ 4 ขวบ พ่อของเขาขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย และหายตัวไปที่ริมแม่น้ำ จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป ไม่กี่ปีต่อมาหลินจิงพบชายอีกคน และได้ให้กำเนิดลูกสาวอีกคน แต่เนื่องจากครอบครัวสามีคนนี้ไม่พอใจเธอและลูกที่ป่วยต้องใช้เงิน เธอจึงตัดสินใจออกมาขายมันเทศแห้งและเต้าหู้ที่ร้านแผงลอยริมถนน เพื่อหาค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชายของเธอด้วยตัวเอง
ภาพจาก Douyin
พฤศจิกายน 2566
บล็อกเกอร์บนแพลตฟอร์ม Douyin ชื่อว่า “ลู่หูเกอ พลังบวก” ซึ่งมีผู้ติดตามราว 27,000 คน ได้โพสต์คลิปวิดีโอถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของหลินจิง ขณะเธอออกไปกำลังตั้งแผงขายของข้างโรงเรียนประถม เธอยุ่งมากแต่ก็ต้องเลี้ยงลูกน้อยไปด้วย ตอนนั้นลูกสาวของเธอยังอยู่ในวัยแบเบาะ เธอจึงต้องคอยหาเวลาพักจากความวุ่นวายเพื่อมาให้นมลูกน้อย กระทั่งลูกชายของเธอเลิกเรียนก็มาช่วยด้วย แต่แม้จะทำงานหามรุ่งหามค่ำ หลังจากหักค่าใช้จ่ายครอบครัวของเธอเหลือรายได้เพียงน้อยนิด
มีนาคม 2567
ผู้ใช้บัญชีโซเชียล “จื้อกังในเจิ้งโจว” บล็อกเกอร์ถ่ายภาพแนวสตรีต ซึ่งมีผู้ติดตาม 2.54 ล้าน ได้ไปถ่ายภาพของหลินจิงที่กำลังตั้งแผงขายของข้างถนน พร้อมทั้งสอบถามเรื่องราวของ “สามี” ของเธอ เธอเผยว่าเขาไม่เห็นด้วยที่เธอมาตั้งแผงขายของเช่นนี้ แต่เธออยากหาเงินเพื่อให้ลูกชายที่ป่วยได้เข้ารับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด คำพูดง่าย ๆ ของเธอเต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้ง และความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวของผู้เป็นแม่ เธอจึงเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ภาพจาก Douyin
เมษายน 2567
บล็อกเกอร์อีกคนชื่อว่า ไฉ่ไฉ่ ซึ่งมีผู้ติดตาม 2.13 ล้านคน ได้เดินทางไปเที่ยวเมืองฉงชิ่ง และได้พบกับหลินจิงและลูกชายของเธอที่กำลังตั้งแผงขายของอยู่ริมถนน จึงได้มีโอกาสสนทนากัน หลินจิงเล่าถึงความยากลำบากในชีวิตที่ผ่านมา ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้า เธอกล่าวว่า เธอกลัวการรับสายจากครูมากที่สุด เพราะในตอนที่เธอกำลังขายของ เธอไม่สามารถไปหาลูกได้
มิถุนายน 2567
เฉียน กุยเหมย
บล็อกเกอร์ถ่ายภาพบุคคล ที่มีผู้ติดตาม 660,000 คน
ได้ทราบเรื่องราวของหลินจิง จึงเดินทางมาบันทึกเรื่องราว
ทำให้ทราบว่าขณะนั้นเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกทั้งสองตามลำพัง
เธอต้องขยันขายของเพราะลูกชายของเธอต้องการค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดมากกว่า
50,000 หยวน (ราว 232,000 บาท) และหลังผ่าตัดอีกกว่า 200,000 หยวน (ราว
930,000 บาท) เมื่อพูดถึงพ่อทางสายเลือดของเด็ก
ดวงตาของหลินจิงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เนื่องจากครอบครัวของเขาคัดค้านการรักษา
มีแค่แม่อย่างเธอที่มุ่งมั่นจะรักษาลูก
ภาพจาก Douyin
ทั้งนี้ ยังมีบล็อกเกอร์อีกคน ชื่อว่า “คุณยายผาน” ซึ่งมีฐานแฟนคลับมากถึง 34.33 ล้าน
ได้พบกับหลินจิงและถามถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากและเจ็บปวดที่สุด
เธอบอกว่าเป็นตอนที่ลูกชายของเธอเข้าโรงพยาบาลและหมอขอให้ออกจากโรงพยาบาล
เพราะไม่มีเงิน เสียงของเธอสั่นเครือ
เธอบอกว่าเธอรู้สึกสิ้นหวังมากจนไม่รู้จะร้องไห้อย่างไร
คุณยายผานให้เงินช่วยเหลือลูก ๆ ของเธอ อีกทั้งยังติดต่อมูลนิธิการกุศลให้
เพื่อหาเงินบริจาคช่วยเหลือ
ภาพจาก Douyin
มกราคม 2568
หลินจิง กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจกว้างขวาง ภายหลังจากบัญชี Douyin ชื่อ “จื่อจินผู้รักการวาดภาพ” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของแม่ลูกสองที่ขายของข้างถนน
พร้อมด้วยภาพวาดของเธอที่เขาวาดขึ้นมา คลิปนี้มียอดไลก์มากกว่า 6.6
ล้านครั้ง พร้อมด้วย 449,000 คอมเมนต์
ชะตากรรมที่เลวร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มที่สดใสของหลินจิง
สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนมากมาย
ชาวเน็ตเข้าไปให้กำลังใจและแสดงความห่วงใยต่อหลินจิง
แต่ในขณะเดียวกันพลังบวกของเธอก็ได้สร้างความอบอุ่นใจให้กับหลายคนเช่นเดียวกัน
ภาพจาก Douyin
ในที่สุด
ความรักอันแข็งแกร่งของแม่ก็ได้ส่องสว่างให้เธอ
ผู้คนร่วมให้การสนับสนุนและบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก จนล่าสุด
สื่อท้องถิ่น First Eye News ได้เผยแพร่วิดีโอสัมภาษณ์หลินจิง
เธอได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อชาวเน็ต
รวมไปถึงหน่วยงานของรัฐที่เข้ามาช่วยเหลือ
รวมถึงติดต่อโรงพยาบาลในกรุงปักกิ่ง
ทำให้ความหวังในการรักษาลูกชายของเธอเป็นจริง
“ไม่ว่าชีวิตจะยากลำบากแค่ไหน
ตราบใดที่คุณมีความหวัง ก็จะมีแสงที่ส่องนำทางคุณไปข้างหน้าเสมอ ในอนาคต
ฉันหวังว่าฉันจะสามารถส่งต่อความรักนี้ และทำให้สังคมนี้อบอุ่นขึ้นเรื่อย
ๆ” หลินจิง กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก NetEase