ฝรั่งรีวิวเที่ยวไทย เผยสิ่งที่ไม่ชอบที่สุด คือบันไดเลื่อนจุดนี้

        ชาวต่างชาติสายท่องเที่ยว รีวิวหลังมาเที่ยวเมืองไทย ในที่สุดก็เจอสถานที่ซึ่งไม่ชอบสุด ๆ รู้เลยทำไมเกลียดบันไดเลื่อนที่นี่



ฝรั่งรีวิวเที่ยวไทย เผยสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดคือบันไดเลื่อน
ภาพจาก Bearded Travels

           เมืองไทยนับวันยิ่งเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะยิ่งในโลกโซเชียล ซึ่งต่างมีคลิปที่นักท่องเที่ยวรีวิวประสบการณ์ประทับใจต่าง ๆ ในเมืองไทยอยู่เสมอ

           ล่าสุด (27 มกราคม 2568) โลกออนไลน์แชร์คลิปจากเพจเฟซบุ๊ก Bearded Travels ชาวต่างชาติ อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว ซึ่งเร็ว ๆ นี้เจ้าตัวเดินทางมา เที่ยวเมืองไทย และทำคอนเทนต์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำกิจกรรมและใช้ชีวิตประจำวันที่ไทยจนได้รับความสนใจจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างแดนเป็นจำนวนมาก โดยแม้ว่าจะชื่นชอบหลายแห่งในเมืองไทยแค่ไหน แต่เจ้าตัวก็เพิ่งได้รู้ว่า มีสถานที่หนึ่งซึ่งรู้สึกไม่ชอบเอาเสียเลย

ฝรั่งรีวิวเที่ยวไทย เผยสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดคือบันไดเลื่อน
ภาพจาก Bearded Travels

           จากคลิปชาวต่างชาติรายนี้แคปชั่นไว้ว่า “ในที่สุดก็เจอสถานที่ซึ่งไม่ชอบมากที่สุดในเมืองไทย” โดยในคลิปเผยให้เห็นภาพของ บันไดเลื่อน ระยะสั้น ๆ แค่ชั้นเดียว ซึ่งสถานที่ดังกล่าวนั้นคือ อาคารผู้โดยสารขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเมื่อขึ้นไปแล้วเท่ากับว่าต้องเดินทางออกจากประเทศไทย แหล่งท่องเที่ยวที่เขานั้นชื่นชอบและประทับใจนั่นเอง


ฝรั่งรีวิวเที่ยวไทย เผยสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดคือบันไดเลื่อน
ภาพจาก Bearded Travels

           คลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์
โดยมีชาวต่างชาติเข้ามาคอมเมนต์เพียบ
โดยต่างรู้สึกเห็นด้วยว่าไม่ชอบบันไดเลื่อนแห่งนี้เอาเสียเลย
เพราะเป็นที่ซึ่งต้องกลับจากทริปท่องเที่ยวเมืองไทยในวันหยุดยาวกลับไปสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง
จึงเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ชวนใจหายของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนนั่นเอง
           

ฝรั่งรีวิวเที่ยวไทย เผยสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดคือบันไดเลื่อน
ภาพจาก Bearded Travels

ฝรั่งรีวิวเที่ยวไทย เผยสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดคือบันไดเลื่อน
ภาพจาก Bearded Travels

กระเป๋าเดินทางสีแดงถูกทิ้ง คนเปิดเจอช็อก คดีฆาตกรรมสยองขวัญ แม่ยังสาววัย 29 ปี


          ชาวบ้านเจอกระเป๋าเดินทางสีแดงถูกทิ้ง เปิดมาสุดช็อก กลายเป็นคดีฆาตกรรมสยองขวัญ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัยสาวอายุ 29 ปี



คดีฆาตกรรมสยองขวัญ ศพแม่ยังสาววัย 29 ปี ในกระเป๋าเดินทางสีแดงถูกทิ้งข้างทาง
ภาพจาก Polres Bogor
          วันที่ 26 มกราคม 2568 เว็บไซต์  Sin Chew รายงานคดีสุดช็อกสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อมีพบเห็นกระเป๋าเดินทางสีแดงถูกทิ้งในพื้นที่เมืองงาวี จังหวัดชวากลาง แต่ปรากฏว่าเมื่อกระเป๋าถูกเปิดออกกลับพบว่าด้านในเป็นความสยดสยองอย่างที่ไม่คาดฝัน เหยื่อสาวร่างเปลือยถูกฆาตกรรมและแยกชิ้นส่วนถูกตัดศีรษะและส่วนขาหายไป  

          ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ชาวบ้านรายหนึ่งชื่อว่า ยูซอฟ วัย 40 ปี เป็นผู้พบกระเป๋าเดินทางสีแดงใบนี้ถูกนำมาทิ้งในจุดทิ้งขยะใกล้กับหมู่บ้าน ด้วยความสงสัยเขาจึงเข้าไปเปิดออกดู แต่แล้วก็ต้องช็อกสุดขีดเมื่อพบว่า มีร่างของมนุษย์ผู้หญิงเปลือยเปล่าถูกยัดอยู่ด้านใน แต่ไม่มีส่วนศีรษะและขา จึงรีบแจ้งตำรวจทันที

          เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียยืนยันตัวตนของผู้เสียชีวิตด้วยลายนิ้วมือ โดยโฆษกตำรวจเปิดเผยว่า เหยื่อรายนี้ชื่อว่า Uswatun Khasanah อายุ 29 ปี เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูก 2 คน ทั้งนี้ทางตำรวจยืนยันว่า ศีรษะและขาของเหยื่อสาวไม่ได้อยู่ในกระเป๋าเดินทาง ทางทีมสืบสวนยังคงตามหาและยังไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ว่าอยู่ที่ไหน  

คดีฆาตกรรมสยองขวัญ ศพแม่ยังสาววัย 29 ปี ในกระเป๋าเดินทางสีแดงถูกทิ้งข้างทาง
ภาพจาก Polres Bogor

          ผลชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นระบุว่า เหยื่อเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ โดยทางเจ้าหน้าที่คาดว่าถูกบีบคอจนทำให้หายใจไม่ออกและถึงแก่ชีวิต จากนั้นฆาตกรได้ตัดแยกชิ้นส่วน ก่อนที่จะนำใส่กระเป๋าเดินทางและนำไปทิ้งตรงบริเวณดังกล่าว

          ด้านพ่อของผู้เสียชีวิตตกใจและสะเทือนใจมากเมื่อทราบข่าวว่าลูกสาวถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม เขาเรียกร้องให้ทางตำรวจจับกุมฆาตกรโดยเร็ว และให้ฆาตกรถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ลูกสาวของเขาได้รับความยุติธรรม

          “ผมยอมรับไม่ได้ว่าลูกสาวของผมถูกฆาตกรฆ่าอย่างทารุณ ผมไม่รู้ว่าเธอมีความแค้นกับคนอื่นหรือเปล่า แต่อาชญากรรมของฆาตกรนั้นไม่สามารถให้อภัยได้” ผู้เป็นพ่อ กล่าว

          ต่อมามีความคืบหน้าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 มกราคม ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ที่เมืองตูลุงกากุง ห่างจากเมืองงาวี ซึ่งเป็นสถานที่พบกระเป๋าเดินทางไปราว 3 ชั่วโมง จากนั้นทีมเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนศีรษะของเธอที่อีกเมือง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองตูลุงกากุงไปประมาณ 1 ชั่วโมง

          ตำรวจเผยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้มีประวัติอาชญากรรมมาก่อน รวมทั้งเคยแอบอ้างเป็นพนักงานขายรถ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุถึงความเชื่อมโยงกับเหยื่อและแรงจูงใจในการก่อเหตุ ทั้งนี้มีข้อมูลเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เหยื่อสาวทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางในเมืองตูลุงกากุง และกลับบ้านเกิดในเมืองงาวีเพียงสัปดาห์ละครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew, World of Buzz
 

แบกเป้เกอร์ รีวิวพลีชีพ โรงแรมญี่ปุ่นคืนละ 200 บาท สภาพอย่างหลอนเหมือนในซีรีส์ดัง

          แบกเป้เกอร์ ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ลองนอนห้องคืนละ 200 บาท ได้สภาพสุดหลอน ลุ้นได้เจอผีก็คราวนี้ 



ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์

          เป็นหนึ่งในนักเดินทางสายแบ็กแพ็คเกอร์ ที่พาผู้ชมท่องไปทั่วโลกด้วยงบสุดประหยัดและรีวิวที่จริงใจ แถมยังได้เจอกับประสบการณ์ตื่นเต้นชวนพีคหลายต่อหลายครั้ง จนหลาย ๆ คนแห่กด Like กด Subscribe กันเพียบ

          ล่าสุด ซันนี่ แห่งช่อง แบกเป้เกอร์ ก็ได้มาอัปเดตการเดินทางใน EP. ใหม่ เป็นภาพการรีวิวพลีชีพสุด ๆ กับโรงแรมญี่ปุ่น ในเมืองโกเบ ราคาคืนละแค่ 200 บาท แต่เห็นสภาพแล้วหลอนมาก !! 

ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์

          ทั้งนี้ ซันนี่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ Backpaeger แบกเป้เกอร์ ระบุว่า รีวิวด้านมืดญี่ปุ่น โรงแรมสุดสยองและถูกที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สถานที่ที่มีโอกาสเจอกุ๊กกู๋มากที่สุด… ตอนสำรวจในห้องมีคนเอาเหรียญซื้อที่นอนด้วยอะ คืนละ 200 บาท จะนอนได้ไหม ? การกลับมาญี่ปุ่นรอบ 2 ของซันนี่ เจอกันคลิปแรกคืนนี้

ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์

          จากภาพเผยให้เห็นบรรยากาศชวนหลอนตั้งแต่ทางเดินเข้าห้องพัก
พบว่ามีสภาพบุโรทั่งแทบไม่ได้รับการดูแลซ่อมแซม ในห้องพักเป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
เท่าขนาดแค่คนนอนได้ โดยมีชั้นวางทีวีเก่า สภาพชั้นวางหักแล้ว
พัดลมฝุ่นเกาะเขรอะ แถมที่นอน ผ้าห่ม ก็ดูจะไม่สะอาดเอาเสียเลย
เรียกว่านอกจากจะชวนขนลุก ยังดูน่าเป็นห่วงสุขภาพไม่น้อยทีเดียว

           งานนี้ชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพและคลิปต่างบอกว่า หลอนมาก, แค่เห็นก็จามแล้วครับ, รอฟังในเดอะโกสต์ค่ะ, ผีไม่กลัว กลัวเชื้อรา, มันไม่ใช่แค่เรื่องผีนะ แต่จากสภาพคือมันนอนได้จริง ๆ หรือคะ, เป็นภาพที่มีกลิ่นออกมา ขนลุกกก, แค่เห็นก็รู้สึกคันแล้ว ฯลฯ และอีกหลายคนก็บอกว่า สภาพที่พักที่เห็นอยู่นี้คล้ายกับในซีรีส์ดังของเกาหลีเรื่อง “นรกคือคนอื่น” หรือ STRANGER FROM HELL ของแท้  

ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์


           เรียกว่าเป็นอีกด้านของญี่ปุ่นที่คุณอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และนอกจากความบุโรทั่งชวนสยอง จะมีสิ่งอื่นที่มากกว่านั้นหรือไม่… ชมคลิปเต็ม ๆ กันได้ที่ช่อง แบกเป้เกอร์  EP. ล่าสุด คลิปแรก 27 มกราคม 2568

ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์

ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์

ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์

ยูทูบเบอร์ไทย รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น นอนโรงแรมคืนละ 200 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Backpaeger แบกเป้เกอร์

ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เริ่มโอนเงิน 10000 บาท สอนวิธีเช็ก ได้รับเงินแล้วหรือยัง


          สอนวิธีเช็กเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 เข้าบัญชีแล้วหรือยัง หลังวันนี้เป็นวันจ่ายเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีผู้ผ่านเกณฑ์ 3 ล้านคน


วิธีเช็กเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เข้าบัญชีแล้วหรือยัง

          วันที่ 27 มกราคม 2568 วันนี้เป็นวันที่มีการโอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จำนวน 10,000 บาท เข้าบัญชีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นวันแรก โดยคนที่จะได้เงินเหล่านี้ ต้องตรวจสอบสิทธิผ่านเกณฑ์ของแอปฯ ทางรัฐ ซึ่งมีเงื่อนไข ดังนี้

          – อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

          – ต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ สำเร็จ ในช่วงเดือนกันยายน 2567

          – ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมิน 8.4 แสนบาท ในปีภาษี 2566

          – ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 5 แสนบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567

          – ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567

          – ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท คือ นักโทษเด็ดขาด, ผู้ต้องขังระหว่าง, ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน

          – ไม่เคยได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 1 ในช่วงปี 2567

วิธีเช็กเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เข้าบัญชีแล้วหรือยัง

วิธีตรวจสอบว่าเงิน 10,000 บาทเข้าหรือยัง

          การโอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จะเป็นการโอนเงินสด 10,000 บาทเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกเลขบัตรประชาชนของผู้รับ

          ดังนั้น การที่เราจะตรวจสอบว่า เงินเข้าหรือยังนั้น จะต้องโหลดแอปฯ ของธนาคารที่มีการผูกบัญชีพร้อมเพย์เพื่อใช้รับเงิน แล้วเช็กยอดเงินล่าสุด หากพบว่า มีเงินโอน 10,000 บาทเข้าบัญชีมา เท่ากับว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต ได้เข้าบัญชีของท่านแล้ว

ใครยังไม่ได้ ทำยังไง

          สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่ได้รับเงินโอน ขอให้รอจนหมดวันที่ 27 มกราคม 2568 ถ้ายังไม่ได้รับเงินอีก ก็ต้องไปเช็กบัญชีพร้อมเพย์ของท่านว่า มีการผูกแล้วหรือยัง หรือถ้าผูกบัญชีพร้อมเพย์แล้วยังไม่ได้ อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ให้ติดต่อธนาคารที่เป็นเจ้าของบัญชี

ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 มาตอนไหน

          จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ และมีอายุตั้งแต่ 16-59 ปี จะได้รับเงินประมาณช่วงเดือนเมษายน 2568

ดราม่า แอร์โฮสเตสใช้เทปปิดปากผู้โดยสารหญิง เผยเหตุการณ์จริงเบื้องหลัง วีรกรรมขั้นสุด

          ดราม่าสนั่นโซเชียล แอร์โฮสเตสสายการบินใช้เทปปิดปากผู้โดยสารหญิง ชี้โหดร้ายไปไหม จนรู้เหตุการณ์จริงเบื้องหลัง วีรกรรมขั้นสุด



แอร์โฮสเตสใช้เทปปิดปากผดส หญิง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jacob Amoe Finiasi


          เพื่อความปลอดภัยในการบิน ผู้โดยสารจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ และไม่แสดงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอันตราย หากไม่ปฏิบัติตาม สายการบินมีสิทธิ์ปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องได้ อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินออกเดินทางไปแล้ว ทางสายการบินอาจมีวิธีจัดการที่แตกต่างกันไป

          วันที่ 26 มกราคม 2568 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคลิปวิดีโอเหตุการณ์น่าตกใจถูกแชร์เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ เมื่อแอร์โฮสเตสของสายการบินฟิจิแอร์เวย์ส (Fiji Airways) ได้จัดการใช้เทปปิดปากผู้โดยสารหญิงรายหนึ่ง ภายหลังจากก่อเหตุความไม่สงบบนเครื่องบิน จนกลายเป็นดราม่าสนั่น เนื่องจากส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายเกินไป ในขณะที่อีกส่วนเข้าใจว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่

แอร์โฮสเตสใช้เทปปิดปากผดส หญิง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jacob Amoe Finiasi

          ตามรายงานเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม
ที่ผ่านมา บนเที่ยวบิน FJ871 ซึ่งออกมาจากเมืองซานฟรานซิสโก
รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และกำลังมุ่งหน้ามายังเมืองนาดิ ประเทศฟิจิ
โดยเที่ยวบินนี้ใช้เวลาเดินทางราว 11 ชั่วโมง
แต่ปรากฏว่าช่วงประมาณครึ่งทาง มีผู้โดยสารหญิงรายหนึ่ง อายุ 69 ปี
ได้ตะโกนโวยวายเสียงดังขึ้นมากลางเครื่องบิน

         
ตามคำบอกเล่าของผู้โดยสารรายหนึ่งบนเที่ยวบิน เผยว่า
ผู้โดยสารหญิงรายนี้เกิดอาการหงุดหงิดและเริ่มตะโกนขึ้นมา
สามีของเธอจึงขอเปลี่ยนที่นั่ง เธอต้องการจะตามสามีไป
แต่ทางแอร์โฮสเตสปฏิเสธที่จะแจ้งว่าเขาย้ายไปนั่งที่ใด
และขอให้เธอกลับไปนั่งที่เดิม
ทางผู้โดยสารหญิงโกรธจัดจึงไม่ยอมให้ความร่วมมือ
แต่กลับโวยวายและอาละวาดตะโกนด่าทอ

แอร์โฮสเตสใช้เทปปิดปากผดส หญิง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jacob Amoe Finiasi


         
ทั้งนี้ พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ยังเผยว่า
ผู้โดยสารหญิงรายนี้ใช้คำพูดหยาบคาย
ทั้งเหยียดเชื้อชาติและดูหมิ่นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
อีกทั้งยังคุกคามและขว้างแก้วกระดาษใส่
และทำร้ายทางร่างกายโดยการตบมือของพนักงาน ตอนนั้นผู้โดยสารรายอื่น ๆ
เริ่มไม่พอใจ ส่งเสียงให้เธอหยุดสร้างความวุ่นวาย
ผู้ปกครองบางคนถึงกับปิดหูลูก ๆ ของพวกเขา เพื่อไม่ให้ได้ยินคำพูดไม่ดี  

         
แอร์โฮสเตส 2 คน
ได้ช่วยกันพาตัวผู้โดยสารหญิงรายนี้ไปที่ด้านหลังเครื่องบิน
และพยายามทำให้เธอสงบลง แต่ก็ไม่เป็นผล
ทางแอร์โฮสเตสจึงให้เทปรัดให้เธออยู่กับที่
แต่กลับยิ่งทำให้เธอมีอารมณ์รุนแรงขึ้น และตะโกนด่าหยาบคายไม่หยุด
ท้ายที่สุดทางแอร์โฮสเตสจึงใช้เทปปิดปากของเธอเพื่อรักษาความสงบในห้องผู้โดยสาร
ในขณะที่ผู้โดยสารหญิงรายนี้ไม่ยอมแพ้
ยังคงพยายามดิ้นและหาทางส่งเสียงให้ได้

แอร์โฮสเตสใช้เทปปิดปากผดส หญิง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jacob Amoe Finiasi

          ต่อมา
ทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้แจ้งว่า
เมื่อเครื่องบินมาถึงสนามบินในฟิจิ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาจัดการควบคุมตัวผู้โดยสารหญิงรายนี้ กระทั่งประมาณ
2 ชั่วโมงก่อนถึงปลายทาง สามีของเธอได้เข้ามานั่งข้าง ๆ
แต่ก็ไม่ช่วยให้เธออามรมณ์ดีขึ้น ผู้โดยสารหญิงก็เข้ามาเช่นกัน
เธอยังคงไม่ยอมสงบและแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างรุนแรง

         
อย่างไรก็ดี
เที่ยวบินดังกล่าวสามารถลงจอดได้โดยปลอดภัยที่สนามบินนานาชาตินาดิ
โดยหลังจากเครื่องบินลงจอดสำเร็จ
ผู้โดยสารหญิงรายนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวและดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที
 

          ทางสายการบินฟิจิแอร์เวย์ส
ได้ออกแถลงการณ์เน้นย้ำว่า
“เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือเป็นอันดับแรก
และเราจะไม่ยอมให้มีพฤติกรรมคุกคามใด ๆ ทั้งสิ้น”
ส่วนทางด้านโฆษกของกรมตำรวจฟิจิ ได้ระบุว่า
หญิงรายดังกล่าวมีอาการมึนเมาและก่อกวนสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้โดยสาร
มีความผิดฐานละเมิดกฎความปลอดภัยในการบิน

ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media, New York Post

พ่อแม่วอนช่วยน้องเดย์ตั้น 2 ขวบ ป่วยโรคหายาก ค่ารักษา 140 ล้าน

         พ่อแม่วอนช่วยเหลือ น้องเดย์ตั้น วัย 2 ขวบ ป่วยโรคหายาก พัฒนาการถดถอยเรื่อย ๆ หมอเผยอาจอยู่ได้อีกไม่กี่ปี พบค่ารักษากว่า 140 ล้าน



วอนช่วยน้องเดย์ตั้น
ภาพจาก เดย์ตั้นน้อยสู้ MLD Metachromatic Leukodystrophy

          วันที่ 26 มกราคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก เดย์ตั้นน้อยสู้ MLD Metachromatic Leukodystrophy โพสต์เรื่องราวของลูกชายวัย 2 ขวบ 4 เดือน ป่วยเป็นโรค MLD โรคพันธุกรรมหายาก ค่ายาและค่ารักษาแพงกว่า 140 ล้านบาท จึงวอนให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือน้องให้ได้รับการรักษาด้วย

          โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อ ดช.คินทร์ หรือเรียกผมว่า เดย์ตั้น ชื่อผมแปลว่าฤดูที่สดใสของพ่อกับแม่ ผมเป็นลูกคนที่สอง ผมมีพี่ชาย ชื่อวินท์ ผมชอบเล่นกับพี่ และแม่ชอบพาผมไปเที่ยวบ่อย ๆ

          ตอนนี้ผมอายุ 2.4 ขวบ คุณหมอบอกว่าผมเป็นโรคร้ายแรง โรคหายากมาก ๆ ค่ายาและการรักษาแพงถึง 100 กว่าล้านบาท เกินกว่าที่พ่อแม่ผมฐานะปานกลางมนุษย์เงินเดือนธรรมดาจะหาทางรักษาได้ ผมโชคร้าย ที่โรคนี้ มันให้เวลาผมได้อยู่กับพ่อแม่พี่ชายอีกแค่ไม่เกิน 2 ปี พัฒนาการของผม มันจะถดถอยลงทุกระบบ ผมอาจจะนั่งไม่ได้ กินกลืนไม่ได้ จนถึงอาจจะหายใจเองไม่ได้ในที่สุด 

วอนช่วยน้องเดย์ตั้น
ภาพจาก เดย์ตั้นน้อยสู้ MLD Metachromatic Leukodystrophy

          หมอบอกผมว่า มันมียารักษาอยู่ต่างประเทศ ไกลถึงอเมริกา และประเทศอังกฤษ  พ่อแม่เตรียมตัวพาผมเดินทางไกลแล้วครับ แต่ติดนิดเดียวครับ ติดตรงที่ไม่รู้เค้าจะรับเคสผมไหม หมอบอกว่าเขาจะรับคนที่ยังไม่มีอาการ และติดอย่างที่สอง ไม่รู้ว่าพ่อแม่ผมจะหาเงินมารักษาได้ไหม 140 กว่าล้านบาท

          ย้อนเรื่องไปตอนแม่ท้องผม แม่ตั้งใจดูแลตัวเองอย่างดี และเลี้ยงผมมาอย่างดี แม่ทำทุกอย่างให้มีน้ำนม ผมกินนมแม่จน 1 ขวบ ผมเติบโตมาด้วยน้ำหนักที่ดี และสุขภาพที่แข็งแรง พัฒนาตามวัย หน้าตาผมจิ้มลิ้มน่ารัก ผมขี้เล่น ผมชอบสัตว์ ผมเริ่มพูดได้บ้างแล้ว แต่ผมเดินไม่เก่ง ทำได้แค่เกาะยืน จน 1 ขวบ กว่า ๆ แม่พาผมไปตรวจพัฒนาการ หมอบอกว่าผมเก่ง ตามวัยดีทุกอย่าง ผมแค่เดินช้า ผมขี้เกียจ แม่พาไปหาหลายหมอ ผมทำอัลตราซาวด์ ดูน้ำในสมอง หมอบอกว่าน้ำเยอะนิดหน่อย เพราะหัวผมดูค่อนข้างโต กระหม่อมก็ยังไม่ปิด แต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ

          เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ผมก็ยังไม่เดิน แม่พาไป CT Scan สมอง ก็ยังไม่พบอะไรอีก ระหว่างเกือบขวบ จนขวบกว่า พัฒนาการผมถดถอยลง จากที่ยืน นั่ง เดินได้นิดหน่อย กลายเป็นผมเริ่มนั่งเองไม่ได้ หยิบจับอะไรมากไม่ได้ ผมพูดได้น้อยลง ความสดใสผมน้อยลง ผมเอาแต่งอแงร้องไห้ ผมป่วยบ่อย เพราะพี่ชายผม เข้าเนิร์สเซอรี ปีแรก ผมเป็นโควิด เป็น RSV 2 ครั้ง ลำไส้อักเสบ และป่วยน้ำมูกใสอยู่บ่อย ๆ แต่การป่วยเหล่านั้นก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ผมไม่เดิน

          แม่พยายามพาผมหาหมอ จนหมอขอ MRI ไขสันหลัง เพราะสงสัยเผื่อมีอะไรผิดปกติ  ก็ยังไม่เจออะไร ขาผมเหยียดเกร็งมากขึ้น ผมเริ่มทรงตัวไม่อยู่มากขึ้น แทบไม่ยกแขนทำอะไรเลย ผมเริ่มทำตามคำสั่งแม่ได้น้อยลงเรื่อย ๆ ตาเริ่มลอย คอผมอ่อน เหมือนเด็กแรกเกิด ผมนอนยาก กินยาก เพราะผมแพ้อาหารหลายอย่าง ผมแพ้ Top 8 ผมกินนมวัวไม่ได้ กินไข่ กินถั่วไม่ได้ ผมกินแต่น้ำนมข้าว ผมมีปัญหาการขับถ่ายอีกด้วยครับ ผมจะร้องไห้ทุกครั้งที่ผมจะอึ ถึงผมจะเลี้ยงยากขนาดไหน พ่อแม่ก็พร้อมใจกันช่วยดูแลเลี้ยงดูผมอย่างดี และไม่ว่าอย่างไง แม่ก็พาผมกับพี่วิน เที่ยวบ่อยมาก ผมมีความสุข ผมชอบไปทะเลกับแม่กับป๊าและพี่วิน ผมชอบเล่นน้ำ ผมอยากวิ่งเล่นแล้ว ผมอยากหายป่วยแล้วครับ

          แม่พยายามหาทางพาผมไปตรวจโรงพยาบาลหลาย ๆ ที่ คุณหมอให้ตรวจเมตาบอลิก เพราะผมขับถ่ายยาก ผลก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ คุณหมอให้แม่ผมตรวจ MRI สมองอีกครั้ง และตรวจเลือด Genes Genetics เพื่อเป็นการตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม เพราะขาแขนผม ตึงเกร็งมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมร่างกายของผมยังทำอะไรได้น้อยลงมาก ๆ เหมือนเด็กอายุแค่ 4-6 เดือนเท่านั้น

          ผมใช้เวลาตรวจอยู่ร่วมปี พี่ ๆ อยากรู้ไหมครับ ว่าผมเป็นอะไร ผมป่วยเป็นโรค MLD ครับ เป็นโรคพันธุกรรมที่หายากมาก ๆ ชื่อว่า Metachromatic Leukodystrophy

วอนช่วยน้องเดย์ตั้น
ภาพจาก เดย์ตั้นน้อยสู้ MLD Metachromatic Leukodystrophy

          ทางเดียวที่จะหาย หรือดีขึ้น ก็คือ ยีนส์บำบัด Gene therapy ที่ราคา ราว ๆ 140 ล้านบาท โรคนี้มันคือ MLD : Metachromatic leukodystrophy เป็นโรคจากการขาดเอนไซม์ Arylsulfatase A (ARSA) ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท (Myelin) โดยมีหน้าที่ Recycle โปรตีน Sphingomyelin (ที่บริษัทนมผงชอบเอามาโฆษณา ปกติร่างกายเราสร้างเองได้) เยื่อหุ้มเซลล์ประสาทมีความสำคัญมากโดยช่วยทำให้การนำกระแสประสาทเร็วขึ้น เมื่อสร้างเยื่อหุ้มได้ไม่ดี+มีสารคั่งในเซลล์จากการขาดเอนไซม์ เซลล์ประสาทก็จะทำงานผิดปกติ เสื่อมลง และถดถอยลงในที่สุด

          Gene therapy คืออะไร คือการเอายีนที่ปกติเข้าไปในเซลล์ของผู้ป่วย เพื่อแก้ไขสาเหตุของโรค ในการรักษาโรค MLD นี้คือต้องทำให้เซลล์ของผู้ป่วยนั้นสามารถสร้าง Enzyme ARSA ได้นั่นเอง

          แม่ผมคาดหวังว่า จะติดต่อศูนย์วิจัยโรงพยาบาลที่อเมริกาหรือ UK หรือที่ใดบนโลกใบนี้ ได้รับการรักษาผมโดยเร็ว เพราะโรคนี้ จะทำให้ผมถดถอยลงเรื่อย ๆ และวันนั้นของผมจะมาถึงเร็วมากขึ้น

          คุณหมอจึงแนะนำให้ครอบครัวผม ทำการระดมทุนรับบริจาคเพื่อเป็นค่ารักษาและค่าใช้จ่ายของผมครับ ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีล่วงหน้าเลยครับ เดี่ยวแม่ผมจะรีบจัดการโดยเร็วที่สุด ให้ถูกต้องและโปร่งใสที่สุด ผมอยากกลับมาเดินได้ กินได้ พูดได้ เที่ยวเล่นกับพี่ชายผมได้เหมือนเดิม ผมไม่อยากต้องจากไปในวัยแค่ไม่กี่ขวบ ขอให้มีปาฏิหาริย์

          ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Meya คุณแม่ของน้องเดย์ตั้น
โพสต์เฟซบุ๊กแชร์เรื่องราวของน้องเพิ่มว่า “สวัสดีค่ะทุกคน
เรามีเรื่องที่ทุกข์ใจที่สุดในชีวิต อยากมาเล่า มาแชร์
พร้อมกับอยากมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทุก ๆ คนด้วยค่ะ

         
มีหลายคนถามว่าช่วงนี้เราเป็นอะไรหรือเปล่า มีหลายคนส่งกำลังใจมาให้มากมาย
ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ
อีกทั้งมีอีกหลายคนร่วมอนุโมทนาไปกับเราทุกครั้งที่เราทำบุญ และขอให้เราสมหวังกับสิ่งที่เราปรารถนา
เราทราบซึ้งใจอยากขอบคุณทุกกำลังใจจริงๆ ทุกคำปลอบ และกำลังใจที่ส่งมา
มันส่งผลต่อจิตใจเราและครอบครัวมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ
แต่เราไม่รู้จะผ่านเหตุการณ์เรื่องนี้ไปยังไงดี

วอนช่วยน้องเดย์ตั้น
ภาพจาก เดย์ตั้นน้อยสู้ MLD Metachromatic Leukodystrophy

         
ถ้าเป็นเพื่อน ๆ จะทำยังไงดี ถ้าได้รับรู้จากคุณหมอว่าลูกคุณป่วย
เป็นโรคทางพันธุกรรม เป็นโรคหายาก โรคร้ายแรง ที่ไม่มีทางรักษา และโรคนี้
มันให้เวลาน้องไม่เกินอายุ 5 ขวบ เท่านั้น
และหมอก็บอกว่าเดย์ตั้นอาจจะมีอายุอยู่ไม่ถึง 2 ปีนี้ด้วยซ้ำ มันเศร้ามากนะ
หัวใจเราผู้เป็นแม่แตกสลายไปหมดแล้ว อุ้มลูกมองหน้าลูกทุกวัน
ทำไมมันต้องมาเกิดกับเดย์ตั้นด้วย  

          เราใช้เวลาเสียใจ
และเราพยายามกลับมาตั้งสติและพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคบ้า ๆ นี้
แทบไม่มีในไทยเลย ไม่มีการรักษาอะไรเลย จะมีก็แต่ยารักษาอยู่ที่เมืองนอก
อเมริกา และ UK ก็คือการักษาด้วยยีนส์ บำบัด ราคา 4.25 ล้านเหรียญ หรือ 140
ล้านบาท เศร้าเข้าไปอีก จะทำยังไงให้ลูกได้รักษา
จะทำยังไงที่จะเข้าถึงโรงพยาบาลศูนย์วิจัยที่เมืองนอกได้เร็วที่สุด
มันเป็นยาใหม่ และแพงมาก ๆ และจะหาเงินจากไหน 140 ล้านบาท กับครอบครัวเรา
พ่อแม่ก็มนุษย์เงินเดือนธรรมดา จะหาเงินจากไหนมารักษาลูก
หรือจะรอคอยวันนั้นของลูกมาถึงโดยไม่ทำอะไรเลยเหรอ ได้เหรอ
พ่อแม่จะทำยังไงดี นอนไม่หลับ คิดไม่ตก ทำอะไรต้องทำให้เร็วที่สุด
เพราะน้องมีเวลาน้อยมาก ๆ

          วันนี้จึงตั้งใจมาก ๆ อยากมาเล่า
มาแชร์ รวมถึงมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ เพราะหัวอกคนเป็นแม่ เป็นพ่อ
คงจะต้องทำให้เต็มที่ที่สุด ก่อนวันนั้นของลูกเราจะมาถึงจริง ๆ  มี 5
อย่างที่เราตั้งใจทำในช่วงเวลาที่เหลือน้อยนิดจากนี้

วอนช่วยน้องเดย์ตั้น
ภาพจาก เดย์ตั้นน้อยสู้ MLD Metachromatic Leukodystrophy

         
ข้อที่ 1 เราอยากติดต่อโรงพยาบาลศูนย์วิจัย บริษัทยา ที่อเมริกา
ให้ได้โดยเร็วที่สุด ใครพอแนะนำติดต่อให้ได้บ้างไหมคะ มีใครอยู่อเมริกา
พอจะไปถามหรือติดต่อให้ได้ไหมคะ ib เข้ามาได้นะคะ

          ข้อที่
2 ถ้าหลังจากได้รับอนุมัติเรื่องการรักษา สำหรับค่ายาและการรักษาที่แพงมาก
หลักร้อยล้านบาท เราอยากจะขอเปิดรับบริจาคให้ลูกเราได้ยาอย่างเร็วที่สุด
ก่อนที่น้องจะถดถอยไปมากกว่านี้ แล้วสุดท้ายจะไม่มียาไหนรักษาได้
เราไม่อยากทำแบบนี้ เราไม่อยากรบกวนคนอื่น ๆ เลย
แต่มันเกินกว่ากำลังเราจริง ๆ และเรื่องนี้มันสำคัญกับเรามาก ๆ
ผู้เป็นแม่คงทำเต็มที่ที่สุด

          ข้อที่ 3 เราอยากขอให้เพื่อน ๆ กด like กดแชร์ เพจน้องเดย์ตั้นสู้ MLD Metachromatic Leukodystrophy เราตั้งใจทำเพจขึ้น เพื่อให้ความรู้ และแชร์เรื่องราวที่ลูกเราเป็น ไม่อยากให้ต้องเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ เลย

         
ข้อที่ 4 เราตั้งใจจะใช้เวลาที่เหลือจากนี้ให้คุ้มค่า
และมีความสุดกับลูกมากที่สุด แบบสุด ๆ เราจะพาลูกไปเที่ยวเหมือนเดิม
แบบที่เรายังไม่รู้ว่าลูกเราป่วย เราตั้งใจเลี้ยงเขาแบบเด็กปกติคนหนึ่ง

          ข้อที่ 5 ขอให้ปาฏิหาริย์ มีจริง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่จะรักและดูแลลูกให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้

         
ขอบคุณทุกคนที่คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณที่กำลังใจและ ความช่วยเหลือ
เราและครอบครัวขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ ส่วนเรากว่าจะเขียนเสร็จก็น้ำตาท่วมบ้าน

ไวรัล TikTok กินหมูกระทะกับเพื่อน รีบบอกว่า อย่าเพิ่งหัน ข้างหลังมีอะไร

          กินหมูกระทะอยู่ดี ๆ ที่ตึกฝั่งตรงข้ามมีเงาดำ ๆ ตะคุ่ม ๆ ทำอะไรไม่รู้ แต่คิดดีไม่ได้ จึงบอกให้เพื่อนอย่าเพิ่งหัน สรุปเพื่อนหันทันที ก่อนจะบอกว่า หวานมาก



กินหมูกระทะอยู่ดี ต้องบอกเพื่อน อย่าเพิ่งหัน
ภาพจาก TikTok @jiraphon.th


          วันที่ 27 มกราคม 2568 TikTok @jiraphon.th มีการลงคลิปการกินหมูกระทะกับเพื่อน โดยข้างหลังเป็นตึกสูงแห่งหนึ่งที่สามารถมองทะลุเห็นข้างในได้

          ระหว่างที่กิน เจ้าของคลิปสังเกตเห็นอาคารฝั่งตรงข้าม มีเงาดำ ๆ ของคน 2 คนกำลังทำอะไรกันสักอย่าง จึงทักเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้าว่า “มึง อย่าเพิ่งหัน” พูดไม่ทันขาดคำ เพื่อนที่อยู่ตรงข้ามก็หันหลังไปดูทันทีว่าที่ตึกมีอะไร

กินหมูกระทะอยู่ดี ต้องบอกเพื่อน อย่าเพิ่งหัน
ภาพจาก TikTok @jiraphon.th


          สุดท้ายก็ไม่รู้อยู่ดีว่า เงาดำ ๆ ของ 2 คนนั้นกำลังทำอะไร รู้แค่ว่าคิดดีไม่ได้จริง ๆ ส่วนเพื่อนเจ้าของคลิปก็บอกว่า “หวานเนอะ”

@jiraphon.th ก็บอกว่าเพิ่งหัน!! #เพื่อน @พี่บด @wa.wathika เสียงต้นฉบับ – กล้วยเกือก


กินหมูกระทะอยู่ดี ต้องบอกเพื่อน อย่าเพิ่งหัน

กินหมูกระทะอยู่ดี ต้องบอกเพื่อน อย่าเพิ่งหัน
ภาพจาก TikTok @jiraphon.th

กินหมูกระทะอยู่ดี ต้องบอกเพื่อน อย่าเพิ่งหัน
ภาพจาก TikTok @jiraphon.th

กินหมูกระทะอยู่ดี ต้องบอกเพื่อน อย่าเพิ่งหัน
ภาพจาก TikTok @jiraphon.th

ลูกค้าโวย ร้านไอศกรีมดัง ให้ช้อนเลอะคราบปริศนา ซ้ำพนักงานทำมึน


            ลูกค้านั่งกินที่ร้านไอศกรีมแบรนด์ดัง ได้ช้อนแต่มีบางอย่างเลอะติดมาด้วย ซ้ำแจ้งพนักงานทำมึน ด้านชาวเน็ตแห่แชร์เรื่องที่ไม่ปลื้ม



ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Tsuyu Rainnie
            วันที่ 26 มกราคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tsuyu Rainnie โพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค แชร์ประสบการณ์ชวนเฟลหลังเข้าร้านไอศกรีมดัง เมื่อได้รับช้อนที่ล้างไม่สะอาด ติดคราบบางอย่างมา ซ้ำเมื่อแจ้งกับพนักงานยังไม่ได้มีคำชี้แจงหรือคำขอโทษแต่อย่างใด

            โพสต์ดังกล่าว เล่าว่า เธอนั้นเข้าร้านไอศกรีมแบรนด์ดัง ร้านมีโปรโมชั่นสั่ง 2 ถ้วยจะราคาถูกลง เธอกินถ้วยแรกก่อน และให้ร้านฟรีซถ้วยที่ 2 ไว้ ก็กินถ้วยแรกไปจนหมด และก็ไม่เจอความผิดปกติอะไร

            อย่างไรก็ดี เมื่อไอศกรีมถ้วยที่ 2 มาเสิร์ฟ พนักงานก็แถมช้อนใหม่มาให้ตามที่ปรากฏในรูป เห็นแล้วจึงไม่ได้ใช้ เลือกที่จะใช้ช้อนที่กินถ้วยแรกต่อแทน โดยได้แจ้งพนักงานแล้ว มีแค่การทำหน้ามึน ๆ แล้วก็เก็บช้อนดังกล่าวกลับคืนไปเท่านั้น

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Tsuyu Rainnie

            หลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไป ปราฏว่ามีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลาย บางส่วนต่างก็แชร์ประสบการณ์ที่ไม่ประทับใจหลังเข้าใช้บริการ ส่วนใหญ่ต่างวิจารณ์ถึงความสะอาด โดยนอกจากเรื่องช้อนที่ทำความสะอาดไม่ดี ยังมีเรื่องแก้วน้ำที่มีกลิ่นคาว เป็นต้น

            ส่วนคำถามว่าสิ่งที่ติดช้อนดังกล่าวนั้นคืออะไร เจ้าของเรื่องราวระบุว่า เป็นคราบ น่าจะพวกทอปปิ้งประเภทสับปะรดเชื่อม แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะ เธอก็ไม่กล้าเขี่ยด้วย

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร

ไอศกรีมร้านดัง เสิร์ฟพร้อมช้อนติดคราบบางอย่าง มันคืออะไร

นาทีตื้นตัน พ่อป่วยนอนติดเตียงลุกเดินได้ ลูกเผยเบื้องหลังปาฏิหาริย์

         ตุ๊กตา อุบลวรรณ เผยนาทีพ่อป่วยนอนติดเตียง จู่ ๆ กลับลุกขึ้นมาเดินได้อีกครั้ง พร้อมเล่าเบื้องหลังปาฏิหาริย์ ขอบคุณเพื่อน อั้ม อธิชาติ



พ่อป่วยนอนติดเตียง ลุกขึ้นมาเดินได้
ภาพจาก instagram tookkatachinjung

        วันที่ 26 มกราคม 2568 ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด นักแสดงสาว เปิดเผยเรื่องราวชวนมหัศจรรย์ กับภาพนาทีคุณพ่อป่วยติดเตียงลุกขึ้นเดินได้อีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์ สร้างความตื้นตันใจแก่ลูกและครอบครัวที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้

        คุณตุ๊กตา เผยว่า ก่อนหน้านี้คุณพ่อมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันสูง เส้นเลือดสมองตีบ และเคยมีภาวะไตวายเฉียบพลัน จนต้องเข้าห้องไอซียูมาแล้วถึง 3-4 ครั้ง ซึ่งตนคอยดูแลใกล้ชิดและให้พ่อกินยาและรักษาตามที่หมอสั่ง จนคุณพ่อก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นทีละน้อย

พ่อป่วยนอนติดเตียง ลุกขึ้นมาเดินได้
ภาพจาก instagram tookkatachinjung
       
        จนกระทั่งวันหนึ่ง อั้ม อธิชาติ ซึ่งเป็นเพื่อนนักแสดง ได้ส่งน้ำสมุนไพรมาให้คุณพ่อทดลองดื่ม หลังจากดื่มไปได้เพียงไม่กี่วัน ปรากฏว่า สิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อสามารถลุกขึ้นเดินได้เอง ยอมรับว่าตกใจมาก จนต้องไปย้อนกล้องวงจรปิดในบ้านและนำเรื่องราวนี้มาแชร์ในโลกออนไลน์
        
พ่อป่วยนอนติดเตียง ลุกขึ้นมาเดินได้
ภาพจาก instagram tookkatachinjung

พ่อป่วยนอนติดเตียง ลุกขึ้นมาเดินได้
ภาพจาก instagram tookkatachinjung

พ่อป่วยนอนติดเตียง ลุกขึ้นมาเดินได้
ภาพจาก instagram tookkatachinjung

 

        สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น คือสิ่งดี ๆ
ที่ลูกคนหนึ่งดีใจที่สุดที่ได้เห็นพ่อกลับมามีเรี่ยวแรงขึ้นอีกครั้ง
มันทำให้ลูกยิ้มได้ และหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวัง
ว่าพ่อจะกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง ขอบคุณเพื่อนอั้ม อธิชาติ
ที่เอาน้ำสมุนไพรดี ๆ มาให้พ่อ
พ่อป่วยนอนติดเตียง ลุกขึ้นมาเดินได้
ภาพจาก instagram tookkatachinjung

พ่อป่วยนอนติดเตียง ลุกขึ้นมาเดินได้
ภาพจาก instagram tookkatachinjung

ทับทิม อัญรินทร์ เปิดคลิปแรกที่ลงคู่กับ ไทด์ เอกพัน เทียบจากแคปชั่น วันนี้มาไกลมาก