ไวรัล TikTok เข้าห้องน้ำในร้านอาหาร เปิดประตูเข้าไป ทุกอย่างสวยงาม พีคตรงบ่อหลังห้อง

          เข้าห้องน้ำในร้านอาหาร เปิดประตูเข้าไปทุกอย่างดูสวยงาม มีสระน้ำด้านหลังห้อง สักพักหนึ่งเอ๊ะ เขินเลย จะเข้ายังไงก่อน



ห้องน้ำในร้านอาหาร
ภาพจาก TikTok @jom_nuntida

          หนึ่งในไอเดียการตกแต่งร้านอาหารให้สวยงาม ห้องน้ำก็เป็นจุดที่จำเป็น จุดที่สามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้เช่นกัน ถ้าห้องน้ำสวยงาม สะอาด ลูกค้าก็จะสามารถคิดได้ต่อว่า ร้านนี้อาหารสะอาดด้วยอย่างแน่นอน

          วันที่ 1 มกราคม 2568 TikTok @jom_nuntida มีการไปทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง และมีโอกาสได้เข้าห้องน้ำของร้าน ข้างในมีความสวยงาม สะอาดสะอ้าน ฝั่งซ้ายคืออ่างล้างหน้า ฝั่งขวาคือ ประตูห้องน้ำ ดูเผิน ๆ ไม่มีอะไร

ห้องน้ำในร้านอาหาร
ภาพจาก TikTok @jom_nuntida

ห้องน้ำในร้านอาหาร
ภาพจาก TikTok @jom_nuntida

          ทว่าเมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ข้างในสวยงามจริง ๆ หลังห้องน้ำมีบ่อน้ำกับโขดหิน สักพักหนึ่งได้สติ ได้แต่คิดว่า แล้วแบบนี้เราจะเข้าห้องน้ำนี้ยังไง

          หากใครยังไม่เข้าใจ เรื่องนี้มีคำเฉลย เหตุที่เจ้าของคลิปมีความกังวล เขินกับห้องน้ำ เนื่องจากบ่อน้ำที่อยู่ด้านหลัง เป็นที่เปิดกว้าง คนที่อยู่ในห้องน้ำแต่ละห้องสามารถเดินเชื่อมได้ถึงกันนั่นเอง

          แต่เปิดด้านหลังห้องน้ำแบบนี้ คงไม่มีใครอุตริเดินไปดูคนอื่นเข้าห้องน้ำหรอกเนอะ

ห้องน้ำในร้านอาหาร
ภาพจาก TikTok @jom_nuntida

ห้องน้ำในร้านอาหาร
ภาพจาก TikTok @jom_nuntida
ห้องน้ำในร้านอาหาร
ภาพจาก TikTok @jom_nuntida
ห้องน้ำในร้านอาหาร
ภาพจาก TikTok @jom_nuntida

งานแต่งเหมือนโรงอาหาร ต้องจ่ายทุกจานถ้าจะกิน เจอซัดไม่มีเงินอย่าจัด

 
            แขกโวย งานแต่งงานเหมือนโรงอาหาร ต้องจ่ายเงินทุกอย่างถ้าจะกิน ซ้ำเจ้าสาวอ้าง เก็บเงินมาหักลบค่าจัดงาน โซเซียลลั่น ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ควรจัดงาน



 งานแต่งเหมือนโรงอาหาร

            วันที่ 2 มกราคม 2568 เว็บไซต์ Sinchew
รายงานเรื่องราวซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงบนโลกออนไลน์ของมาเลเซีย
หลังชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาเล่าประสบการณ์อึ้ง
จากการไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนในรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ที่แขกทุก ๆ
คนในงาน ถูกบังคับให้จ่ายค่าอาหารทุกอย่างที่กิน
ตั้งแต่อาหารจานหลักไปจนถึงขนมหวาน จนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า
“มันเป็นเรื่องปกติของที่ยะโฮร์เหรอ ?”

            โดยชาวเน็ตที่ไม่เผยชื่อดังกล่าว
เล่าว่า
ไม่นานมานี้เขาเพิ่งจะไปร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของเพื่อนที่รัฐยะโฮร์
พร้อมพาแม่ไปด้วย เขายังเตรียมของขวัญไปให้คู่บ่าวสาวอีกต่างหาก
แต่ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเมื่อไปถึงงาน เขายังจะต้องจ่ายเงินค่าอาหารทุก ๆ
อย่างในงานเลี้ยงด้วย

            โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า
ค่าอาหารในงานเลี้ยงนั้นมีการกำหนดราคาชัดเจน เช่น
ข้าวที่เป็นอาหารหลักของงานแต่ง จานละ 5 ริงกิต (ราว 38 บาท) ขนมอบเล็ก ๆ
ชิ้นละ 0.3 – 0.5 ริงกิต (ราว 2 – 4 บาท) ส่วนอาหารอื่น ๆ
เพิ่มได้ในราคาตั้งแต่ 1.5 – 3.5 ริงกิต (ราว 11 – 26 บาท)
นอกจากนี้ยังมีขนมลอดช่อง ชามละ 2.5 ริงกิต (ราว 19 บาท) และไอศกรีมลูกละ
1.5 ริงกิต (ราว 11 บาท)
 
            “รอบนี้ฉันพาแม่ไปด้วย
แล้วก็ให้ของขวัญไปอีกด้วย แต่เมื่อถึงงานยังต้องจ่ายค่าอาหารอีก
ทำให้ฉันช็อกจริง ๆ” เจ้าของเรื่องชี้ พร้อมถามว่า “ฉันแค่ประหลาดใจไปเอง
หรือการจ่ายเงินค่าอาหารงานแต่งเป็นเรื่องปกติที่รัฐยะโฮร์กันแน่”

 
            ในโพสต์ดังกล่าวยังชี้ว่า
ภายในงานมีคนที่รับผิดชอบในการไล่เก็บค่าอาหารในแต่ละโซน
ที่แขกนั่งกินอาหารกัน และเมื่องานเลี้ยงแต่งงานจบลง
เจ้าสาวยังโพสต์บ่นผ่านโซเชียลมีเดียอีกด้วย
แสดงความขับข้องใจที่แขกต่างก็บ่นเรื่องที่ถูกเก็บเงินค่าอาหาร
และอ้างว่าที่ต้องให้แขกจ่ายเงิน
ก็เพื่อนำมาหักลบกับค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดงาน
และเพื่อสนับสนุนกลุ่มคนขายอาหาร

            แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
ตัวเขามองว่าการทำแบบนี้ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย และเท่าที่เขารู้
มีแขกหลายคนที่ไม่ยอมกินอะไรในงาน ส่วนอีกหลาย ๆ คนก็ช็อกเหมือนกัน
ที่ถูกเรียกเก็บเงินหลังจากกินอาหารกันแล้ว
 
            โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลที่มีคนดูกว่า
1 แสนครั้ง ในเวลาเพียง 2 วัน
ยังมีชาวเน็ตหลายคนที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์คล้ายคลึงกัน
แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าการเรียกเก็บเงินที่งานแต่งงานแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องปกติ
บางคนยังวิจารณ์ว่า “งานเลี้ยงแต่งงานกลายเป็นโรงอาหารไปซะแล้ว”

 

สำหรับคอมเมนต์ต่าง ๆ เช่น

            “มีคนเรียกเก็บค่าอาหารในงานเลี้ยงแต่งงานได้ยังไง
การจัดเลี้ยงฟรีคือธรรมเนียมที่เราทำต่อ ๆ กันมาจนถึงตอนนี้
ถ้าคุณจัดงานไม่ไหว ก็อย่าเชิญคนมาหรือไม่ต้องจัดงานไปเลย
สิ่งนี้เลี้ยงว่างานเลี้ยงฉลองไม่ได้ด้วยซ้ำ”

            “ยะโฮร์เป็นแบบนี้จริง
ๆ ฉันเคยไปร่วมงานแต่งที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มมา 2 ครั้งแล้ว
ครั้งแรกเก็บเป็นหัว คนละ 15 ริงกิต (ราว 11 บาท) และอีกครั้งเก็บคนละ 9
ริงกิต (ราว 68 บาท)”

            “นี่มันงานเลี้ยงแต่งงานหรือร้านอาหารกันแน่
ไม่ใช่เรื่องปกติเลย ฉันก็มาจากรัฐยะโฮร์
แต่ไม่เคยไปงานเลี้ยงแต่งงานที่ขอให้แขกจ่ายเงินมาก่อน
ฉันเองก็ไม่ขอให้แขกจ่ายเงินในงานแต่งของฉันด้วยซ้ำ
ส่วนแขกจะให้เงินหรือของขวัญหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา”

ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew

โรงแรมสงขลา ห้องสกปรก ทั้งกลิ่นบุหรี่ ผ้าปูที่นอนไม่ได้ซัก แถมราคายังแพง

          พักโรงแรมมีชื่อทางภาคใต้ แต่เข้าไปแทบหมดสภาพ ทั้งกลิ่นบุหรี่ ผ้าปูไม่ได้ซัก ห้องเปลี่ยนไม่ได้ แถมราคาตั้งแบบนี้ยังไงก็คือแพงในความรู้สึก



เปิดห้องพักโรงแรมมีชื่อ เข้าไปลมแทบจับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij


          เวลาไปพักค้างแรมที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ปัจจัยหลักที่ทุกคนมักเอามาเป็นประเด็นตัดสินว่า จะเข้าพักหรือไม่เข้า คือ ราคากับความสะอาด ถ้าหากผ่านทั้ง 2 อย่างก็คงมีลูุกค้าพักเรื่อย ๆ ได้ไม่ยาก ยกเว้นกรณีห้องพักไม่ตรงปก

          วันที่ 2 มกราคม 2568 เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij มีการเล่าเรื่องการพักโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ ราคา 450 บาท เมื่อเข้าไปในห้องกลับพบว่า ห้องสกปรก มีกลิ่นบุหรี่เหม็นทั่ว ขี้บุหรี่ตกตามพื้น ที่นอนมีเส้นผม ปลอกหมอนสีดำ เหมือนไม่ได้ซักผ้าปูที่นอน ทั้ง ๆ ที่ควรซัก

เปิดห้องพักโรงแรมมีชื่อ เข้าไปลมแทบจับ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij


          เจอสภาพแบบนี้นอนไม่ไหว
จึงขอโรงแรมเปลี่ยนห้อง แต่คนเฝ้าก็ไม่ยอมให้เปลี่ยน
นั่งสูบบุหรี่ไม่ยอมตอบ เจอแบบนี้อย่าหลงเข้าไปเด็ดขาด
ต่อให้ราคาห้องเป็นเงินแค่ 450 บาท แต่ในความรู้สึกคือแพงมหาศาล
แถมเจอรีวิวคล้าย ๆ กัน มีผู้ประสบภัยอีกหลายคน

เปิดห้องพักโรงแรมมีชื่อ เข้าไปลมแทบจับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij

เปิดห้องพักโรงแรมมีชื่อ เข้าไปลมแทบจับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij

เปิดห้องพักโรงแรมมีชื่อ เข้าไปลมแทบจับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij

เปิดห้องพักโรงแรมมีชื่อ เข้าไปลมแทบจับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij

เปิดห้องพักโรงแรมมีชื่อ เข้าไปลมแทบจับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kongpop Poonkij

บีบหัวใจ พุดดิ้ง ตูบยังรอเจ้าของ – คอยดูรถทุกคัน ไม่รู้ครอบครัว 9 คน ไม่หวนกลับ

          สะเทือนใจ พุดดิ้ง เจ้าตูบยังเฝ้ารอเจ้าของไม่ไปไหน หลังครอบครัว 9 ชีวิตดับบนเครื่องบินเจจูแอร์ เผยคอยมองรถทุกคันหาเจ้าของ แค่มองดูก็เศร้าใจ


พุดดิ้ง สัตว์เลี้ยงของครอบครัวผู้เสียชีวิต 9 คน จากโศกนาฏกรรมเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์
ภาพจาก allkpop

          ท่ามกลางความเศร้าสลดที่เกาะกินใจชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกาหลีใต้ หลังโศกนาฏกรรมเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์  คร่า 179 ชีวิตบนเที่ยวบิน รวมถึงครอบครัว 9 คนที่เสียชีวิตพร้อมกัน ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่เพียงกระทบต่อจิตใจของผู้คน แต่ยังรวมถึง พุดดิ้ง สุนัขของครอบครัวดังกล่าว ซึ่งถูกทิ้งไว้ที่บ้านเพียงลำพัง และยังคงเฝ้ารอเจ้าของที่ไม่มีวันกลับมา

          อ่านข่าว : สลด ครอบครัว 9 ชีวิต มาทริปฉลองวันเกิด กลายเป็นทริปสุดท้าย ก่อนเครื่องบินตก

          วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ allkpop รายงานว่า หนึ่งในผู้โดยสารที่เสียชีวิตคือ นายแบ ผู้โดยสารอายุมากที่สุดบนเที่ยวบินนั้น ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านยองอัม จังหวัดชอลลาใต้ โดยทราบว่านายแบเดินทางมาประเทศไทยพร้อมกับ ภรรยา ลูกสาว 2 คน และครอบครัวของพวกเขา รวม 9 คน นี่ยังเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของเขา เพื่อฉลองวันเกิดครบอายุ 80 ปี

          โศกนาฏรรมที่น่าเศร้านี้ยังทิ้ง พุดดิ้ง
ไว้เบื้องหลัง มันยังเฝ้ารอเจ้าของที่ไม่มีวันกลับมา
คนที่เลี้ยงพุดดิ้งคือหลานสาววัย 5 ขวบ ของครอบครัวนี้
มีคนเห็นว่าพุดดิ้งเดินเตร่อยู่ใกล้บ้านที่ว่างเปล่าของครอบครัว
มันเดินเตร่ไปทั่วหมู่บ้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เฝ้ามองดูรถทุกคันที่ผ่านมา และแอบเข้าไปยังศูนย์ชุมชน
ราวกับกำลังตามหาคนในครอบครัว

         
ในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่อีกต่อไป
แต่พุดดิ้งยังคงเฝ้ารอเจ้านายอยู่ที่บ้านหลังนั้น ไม่ยอมไปไหน
จนชาวบ้านยอมรับว่า “มันน่าเศร้าใจมาก แค่เดินผ่านบ้านของพวกเขา
หรือมองดูมันก็ทำให้รู้สึกทนไม่ไหวแล้ว”

         
ชาวบ้านคนอื่นพยายามจะรับพุดดิ้งไปดูแลต่อ และพามันกลับไปที่บ้านด้วย
แต่พุดดิ้งก็ยอมเดินตามพวกเขาไปแค่ชั่วครู่
และจะกลับมายังบ้านของตัวเองเสมอ

พุดดิ้ง หมานั่งรอเจ้าของ จากโศกนาฏกรรมเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์
ภาพจาก allkpop

         
กระทั่งในที่สุด เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา องค์กรคุ้มครองสัตว์
CARE เปิดเผยว่า ทางองค์กรฯ ได้เข้าช่วยเหลือพุดดิ้งแล้ว
โดยพวกเขาเชื่อว่าสถานการณ์ของสุนัขตัวนี้ที่เดินเตร่ไปทั่วหมู่บ้านโดยไม่มีเจ้าของนั้น
เป็นอันตราย จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือมัน

          CARE
อธิบายเพิ่มเติมว่า พุดดิ้งยังเฝ้ารอครอบครัวของมันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
มันคอยดูรถที่เข้ามาในหมู่บ้านตลอดเวลา ดังนั้น
จนกว่าจะเจอเจ้าของที่เหมาะสม CARE
จะทำให้แน่ใจว่าพุดดิ้งจะได้รับการดูแลที่เหมาะสม

         
ทางด้านชาวเน็ตก็ได้แสดงความสะเทือนใจต่อเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า
“ผู้ที่เสียชีวิตมีทั้งคุณปู่ คุณย่า ลูกสาวคนโต ลูกเขยคนโต หลานคนโต
ลูกสาวคนที่สอง และลูก ๆ 3 คนของเธอ รวมเป็น 9 คน
สามีของลูกสาวคนที่สองจะยังคุมสติอยู่ได้อย่างไร หลังสูญเสียภรรยาและลูก 3
คน รวมถึงครอบครัวภรรยาและญาติ ๆ”

          ขณะที่อีกคนระบุว่า “เรื่องที่ใจสลายเกี่ยวกับสัตว์ในสถานการณ์เช่นนี้
คือคุณไม่สามารถอธิบายให้มันเข้าใจได้
ว่าเจ้าของมันไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป และจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้ามันอีก
มันไม่เข้าใจคำพูด ดังนั้นข้อความนี้จึงไม่สามารถส่งถึงมันได้
หากมันเห็นเจ้าของจากไปต่อหน้าด้วยตาของมัน มันก็ยังอาจจะเข้าใจบ้าง
แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่เพราะสิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้น
มันจึงรู้สึกได้แค่การรอคอยและความโหยหาอันไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อนึกถึงว่าสุนัขอาจเชื่อว่าเจ้าของทอดทิ้งมันไป
ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจเช่นกัน”

พุดดิ้ง หมาของครอบครัวผู้เสียชีวิต 9 คน จากโศกนาฏกรรมเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์
ภาพจาก allkpop

ขอบคุณข้อมูลจาก allkpop

ไวรัล TikTok ไรเดอร์หญิงกดรับงานพลาด รับงานลูกค้าชาย จึงต้องตามใจลูกค้า


          เมื่อไรเดอร์หญิงกดรับงานพลาด ไปกดรับลูกค้าชาย จึงกลายเป็นเรื่องสุดฮา เพราะต้องสลับตำแหน่ง พีคสุดคือ รอบนี้ใครจ่ายเงิน






ภาพจาก TikTok @riderying_2567

          ไรเดอร์หญิง ก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกของลูกค้าหญิงในแง่ของความปลอดภัย ทั้งตัวไรเดอร์และตัวลูกค้า โดยไรเดอร์สามารถเลือกได้ว่า จะรับลูกค้าคนไหน หรือไม่รับคนไหน

          วันที่ 31 ธันวาคม 2567 TikTok @riderying_2567 มีการลงคลิปไรเดอร์หญิงรายหนึ่ง ซึ่งปกติเธอมักกดรับแต่เฉพาะลูกค้าหญิง ทว่ามีครั้งหนึ่งกดพลาด ไปรับลูกค้าชาย มารู้ตอนถึงที่หมาย เรื่องจึงกลายเป็นแบบนี้


ภาพจาก TikTok @riderying_2567


ภาพจาก TikTok @riderying_2567

          ลูกค้าชายถามว่า หนูไหวไหม พี่ขับได้นะครับ ส่วนทางไรเดอร์หญิงก็ถามกลับว่า ได้ใช่ไหม จากนั้นทั้งคู่ก็สลับตำแหน่งกัน กลายเป็นลูกค้าเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ ส่วนไรเดอร์หญิงกลายเป็นคนซ้อน

          ส่วนสาเหตุที่ทำไมต้องสลับตำแหน่ง เนื่องจากไรเดอร์หญิงมองว่า ถ้าเป็นคนขี่น่าจะรับน้ำหนักของไรเดอร์ชายไม่ไหว จึงยอมให้อีกฝ่ายเป็นคนขี่

          เมื่อถึงที่หมาย มีคำถามตามมาอีก 1 ข้อว่า แบบนี้ใครจ่ายเงิน คำตอบคือ ลูกค้าที่เป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ เป็นคนจ่าย แถมใจดีจ่ายเกินกว่าค่าโดยสาร น่ารักมาก ส่วนคนดูคลิปต่างเข้าไปแซวว่า ดูเหมือนฟีลแฟนจริง ๆ


ภาพจาก TikTok @riderying_2567

แฟลตเก่า 20 ปี สภาพโทรมชวนหลอน อัปเกรดห้องใหม่อย่างว้าว เปิดดูด้านในคนละโลก

          แฟลตเก่าสภาพทรุดโทรมชวนหลอน อยู่มานาน 20 ปี เก็บเงินอัปเกรดห้องใหม่อย่างว้าว เปิดดูด้านในต่างกันราวคนละโลก



แฟลตเก่า
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

          วันที่ 1 มกราคม 2568 เว็บไซต์ Sinchew เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคลิปวิดีโอของหญิงรายหนึ่งประเทศมาเลเซีย ได้รับความสนใจและเสียงชื่นชมจากผู้ใช้โซเชียล โดยคลิปเผยให้เห็นห้องพักที่แฟลตแห่งหนึ่ง ซึ่งสภาพภายนอกดูเก่าทรุดโทรมมาก แต่ได้รับการอัปเกรดรีโนเวทภายในจนเปลี่ยนแปลงไปใหม่อย่างสิ้นเชิง จนทำให้ผู้ชมหลายคนร้องว้าวไปตามกัน

          หญิงรายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า นานา ได้โพสต์คลิปวิดีโอทาง TikTok @nurulsyazzz เผยให้เห็นบ้านของพ่อเธอ ซึ่งอาศัยอยู่ที่แฟลตของการเคหะแห่งหนึ่ง ในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ภายนอกของตัวอาคารมีหลายชั้น แต่สภาพดูเก่ามาก บรรยากาศชวนหลอน พ่อของเธออาศัยอยู่ที่นี่มานานถึง 20 ปี กระทั่งสามารถเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งจึงตัดสินใจใช้เงิน 50,000 ริงกิต (ราว 381,000 บาท) เพื่อปรับปรุงด้านภายใหม่ทั้งหมด

ห้องแฟลตเก่า
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

รีโนเวทห้องแฟลตเก่า
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

รีโนเวทห้องเก่า
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

          จากในคลิปจะเห็นว่า
เมื่อเปิดประตูของห้องเข้าไปมีตกแต่งภายในสวยงามและได้รับการดีไซน์มาเป็นอย่างดี
ราวกับเป็นอพาร์ตเมนต์หรูราคาแพง มีชั้นวางของแบบบิลต์อิน
มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ แบ่งโซนห้องน้ำ ห้องครัว
มุมโต๊ะกินข้าว และห้องรับแขก มีพื้นที่กว้างขวางและสะอาดสะอ้านสบายตา
เฟอร์นิเจอร์ได้รับการคัดสรรมาอย่างลงตัว
เมื่อเปรียบเทียบกับทรุดโทรมชวนน่าแออัดด้านนอก
ดูแตกต่างราวกับอยู่คนละที่เลยทีเดียว

         
คลิปวิดีโอนี้ได้รับความนิยมหลังจากถูกนำมาโพสต์
มีผู้ชมจำนวนมากพากันเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น
โดยส่วนใหญ่ต่างรู้สึกประหลาดใจและชื่นชมพ่อของเธอ
ที่เปลี่ยนแฟลตการเคหะเก่า ๆ ให้กลายเป็นอพาร์ตเมนท์หรูได้อย่างน่าทึ่ง

รีโนเวทห้องใหม่
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

รีโนเวทห้องแฟลตใหม่
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

          “ฉันชอบเห็นคนที่มีทัศนคติแบบนี้ที่สุด พวกเขาทำงานหนักและมีความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่สิ้นสุด”

          “เป็นตัวอย่างที่ดี จะบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ถ้าเจ้าของเป็นคนสะอาด บ้านก็จะสวยแน่นอน”

          “สภาพภายนอกและภายในต่างกันลิบลับ เมื่อเปิดประตูบ้านของคุณเข้ามา ราวกับได้เข้าไปอยู่ในอีกโลก”

          “การลงทุนที่ค้มค่า คือการลงทุนเพื่อมีพื้นที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น”

          “ตกแต่งได้สวยงามมาก เป็นบ้านที่น่าอยู่จริง ๆ”

รีโนเวทห้อง
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

รีโนเวทห้องแฟลต
ภาพจาก TikTok @nurulsyazzz

ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew

จ้าวลู่ซือ เปิดใจอาการป่วยหนักช็อกแฟนคลับ อัปเดตอาการล่าสุด กำลังต่อสู้ฟื้นฟูร่างกาย

ประกันสังคม ปี 2568 จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่ ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นหรือไม่

         ตรวจสอบรายละเอียด ประกันสังคม ปี 2568 ผู้ประกันตน มาตรา 33,39 และ 40 ต้องจ่ายเงินสมทบเท่าไหร่ และมาตรา 33 ต้องจ่ายเงินเพิ่มไหม


ประกันสังคม ปี 2568 ผู้ประกันตน ต้องจ่ายเงินสมทบเท่าไหร่

          จากกรณีที่สำนักงานประกันสังคม มีการเตรียมขึ้นอัตราการจ่ายเงินสมทบ ผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมสูงสุด 750 บาทต่อเดือน เป็นสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน ภายในปี 2575 พร้อมกับเพิ่มสิทธิประโยชน์สำคัญ เช่น การดูแลความเจ็บป่วย, การคลอดบุตร, เงินว่างงาน และเงินบำนาญ เพื่อให้สอดคล้องกับการขึ้นราคาจ่ายเงินสมทบนั้น

          วันที่ 2 มกราคม 2568 การปรับอัตราการนำส่งเงินสมทบประกันสังคม และสิทธิประโยชน์ ในปี 2568 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยจะเริ่มปรับเพิ่มเงินสมทบตั้งแต่ปี 2569 ส่วนอัตราการจ่ายเงินสมทบในปี 2568 ยังคงเท่าเดิม ประกอบด้วย

ประกันสังคม มาตรา 33 จ่ายเท่าไหร่

          ลูกจ้าง ส่งเงินสมทบ 5% ของค่าจ้าง คำนวณจากฐานค่าจ้างต่ำสุด 1,650 บาท และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท

          ดังนั้น ลูกจ้างจะส่งเงินสมทบอยู่ระหว่าง 82.50-750 บาทต่อเดือน หากใครมีเงินเดือนเกิน 15,000 บาท ก็จะส่งเงินสมทบสูงสุด 750 บาท ต่อเดือน

ประกันสังคม มาตรา 39 จ่ายเท่าไหร่

          ผู้ประกันตน มาตรา 39 ต้องส่งเงินเข้ากองทุน 432 บาทต่อเดือน

ประกันสังคม มาตรา 40 จ่ายเท่าไหร่

          ทางเลือกที่ 1 : ผู้ประกันตนจ่ายสมทบ 70 บาทต่อเดือน

          ทางเลือกที่ 2 : ผู้ประกันตนจ่ายสมทบ 100 บาทต่อเดือน

          ทางเลือกที่ 3 : ผู้ประกันตนจ่ายสมทบ 300 บาทต่อเดือน

ประกันสังคม ปี 2568 ผู้ประกันตน ต้องจ่ายเงินสมทบเท่าไหร่


อัตราจ่ายเงินสมทบผู้ประกันใหม่ (เริ่ม 2569)

1. ปี 2569-2571

          จะมีการส่งเงินประกันสังคมสูงสุด 875 บาทต่อเดือน สำหรับค่าจ้าง 17,500 บาทต่อเดือน พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เช่น

          – เจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน

          – คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง

          – ว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน

          – บำนาญส่งเงินมา 15 ปี 3,500 บาทต่อเดือน

          – บำนาญส่งเงินมา 25 ปี 6,125 บาทต่อเดือน

2. ปี 2572-2574

          จะมีการส่งเงินประกันสังคมสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน สำหรับค่าจ้าง 20,000 บาทต่อเดือน เพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เช่น

          – เจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน

          – คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง

          – ว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน

          – บำนาญส่งเงินมา 15 ปี 4,000 บาทต่อเดือน

          – บำนาญส่งเงินมา 25 ปี 7,000 บาทต่อเดือน

3. ปี 2575 เป็นต้นไป

          จะมีการส่งเงินประกันสังคมสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน สำหรับค่าจ้าง 23,000 บาทต่อเดือน เพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เช่น

          – เจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน

          – คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง

          – ว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน

          – บำนาญส่งเงินมา 15 ปี 4,600 บาทต่อเดือน

          – บำนาญส่งเงินมา 25 ปี 8,050 บาทต่อเดือน

            ทั้งนี้สามารถตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับประกันสังคม เตรียมปรับเพดานค่าจ้างจ่ายเงินสมทบใหม่ได้ที่นี่