หลาน ๆ มาหาช่วงตรุษจีน แต่เป็นฝันร้ายอากง ตาบอกความในใจ ตอนเด็ก ๆ เข้าคิว


          แชร์สนั่น ครอบครัวพร้อมหน้าช่วงตรุษจีน สีหน้าอากงบอกชัด แฮปปี้หรือไม่ เจอชอตเด็ดเข้าคิวรอรับอั่งเปา ชาวเน็ตถึงกับแซวสนั่น ทำร้ายคนแก่ชัด ๆ



ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน
ภาพจาก Hk01

          เทศกาลตรุษจีนมาถึงทั้งที ก็นับเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่ครอบครัวจะได้กลับมาอยู่รวมกันพร้อมหน้า ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนก็คาดหวังว่าจะได้มีลูกหลานมาเยี่ยมกันเต็มบ้าน แต่หากได้เห็นภาพของบรรดาลูกหลานที่มาอยู่รวมกันเต็มบ้านของจริงแบบครอบครัวนี้ เชื่อว่าบางคนอาจมีเปลี่ยนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นสีหน้าของอากงในสถานการณ์ที่แทบจะเป็นฝันร้าย โดยที่อาม่าได้แต่มองอยู่ข้าง ๆ อย่างสิ้นหวัง

          จากรายงานของเว็บไซต์ Hk01 วันที่ 29 มกราคม 2568 เปิดเผยว่า คลิปของครอบครัวใหญ่ที่มีหลาน ๆ นับสิบคนมารวมตัวกันที่บ้านอากงอาม่าในประเทศจีน กำลังเป็นไวรัลที่ถูกแชร์และพูดถึงอย่างมาก ปรากฏว่าลูกสาวของบ้านนี้ทั้ง 3 คน ที่แต่งงานแยกย้ายกันไปมีครอบครัวแล้ว ต่างพร้อมใจกันกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ โดยไม่ลืมพาหลาน ๆ มาด้วย

ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน
ภาพจาก Hk01

          แต่ด้วยจำนวนหลาน ๆ ที่มีอยู่มากมายเป็นสิบ ทำให้บ้านของอากงอาม่าเกิดความแออัดเล็กน้อย เรียกว่าจะทำอะไรแต่ละอย่างนั้น หลาน ๆ ก็ต้องต่อคิวกันยาว ทั้งตอนกินข้าว เข้าห้องน้ำ แม้กระทั่งตอนรอรับเงินอั่งเปา ที่ทำให้อากงถึงกับส่ายหัวและถอนหายใจ ได้แต่นั่งแจกซองแดงด้วยดวงตาไร้วิญญาณสุด ๆ

          เห็นหลาน ๆ ที่ยืนรอรับซองแถวยาวเหยียดแบบนี้ อาม่าเองก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้ ทำได้แค่แกล้งทำทีเป็นผลักเด็ก ๆ ให้รีบเข้าไปรับซองไว ๆ เท่านั้น

ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน
ภาพจาก Hk01

          ทั้งนี้ Hk01 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าคลิปดังกล่าวเริ่มถูกแชร์มาตั้งแต่ปี 2565 แต่ผู้คนกลับมาให้ความสนใจและแชร์ต่อกันอีกครั้ง เมื่อตรุษจีนปีนี้เวียนมาถึง ขณะที่ลูกสาวของอากงเผยว่า “ตอนแรกเขาก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้พวกเราพี่น้องแต่งงานออกไปไกล ๆ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นเรื่องดี” แถมอากงยังบอกเลยว่าปีอื่น ๆ ไม่ต้องแห่กันมาบ้านเขาแล้ว เพราะเลี้ยงไม่ไหวจริง ๆ

ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน
ภาพจาก Hk01

          ทางด้านชาวเน็ตเองเมื่อได้เห็นสีหน้าของอากง ต่างพากันเข้ามาแซวสนั่น เช่น

          “พวกคุณโหดร้ายมาก รังแกคนแก่”

          “ท่าทางของอากงตอนส่ายหัว อย่างฮา”

          “ใครจะคิดว่าลูกสาวทั้ง 3 คนจะกลับมาบ้าน หลังแต่งงานออกไปแล้ว”
 
          “บ้านที่เต็มไปด้วยลูกหลานกลายมาเป็นฝันร้ายในตอนนี้ ครอบครัวเล็ก ๆ ผ่อนคลายและสบายกว่ากันเยอะ”

ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน
ภาพจาก Hk01

ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน
ภาพจาก Hk01

ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน

ภาพจาก Hk01
ตรุษจีนกลายเป็นฝันร้ายของอากง เมื่อลูกพาหลานกลับมาเยี่ยมเต็มบ้าน
ภาพจาก Hk01

ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01

ประกาศเซ้ง อาบอบนวด Suit39 ราคา 17 ล้าน แค่อ่างอาบน้ำก็กินขาดแล้ว


          ประกาศเซ้งอาบอบนวดย่านพระราม 9 ราคา 17 ล้าน พอส่องรูปในอาคาร แต่ละสิ่งแต่ละอย่างหรู ไม่เหมือนรีสอร์ตทั่วไป โดยเฉพาะอ่างอาบน้ำกับห้องอาบน้ำ



ประกาศเซ้งอาบอบนวดพระราม 9 ราคา 17 ล้าน
          วันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งมีการโพสต์ประกาศเซ้งด่วน อาบอบนวด ย่านพระราม 9 ราคา 17 ล้าน โดยมีสิ่งที่มอบให้ดังต่อไปนี้

          – ใบอนุญาต 3 ใบ คือ ใบอนุญาตสถานบริการอาบอบนวด 14 ห้อง ใบอนุญาตสถานบริการซาวน่า ใบอนุญาตสถานที่จำหน่ายอาหาร

          – มีใบอนุญาตอาบอบนวด (ใบลอย) 2 ใบ 300 ห้องยกมาจากอาบอบนวดเจ้าพระยา 2/3

ประกาศเซ้งอาบอบนวดพระราม 9 ราคา 17 ล้าน
          กิจการอยู่ในทำเลดี รายได้ดีมาก อยู่ในโซนนิ่งขยายเวลาเปิดให้บริการถึงตี 4 เหมาะต่อยอดเป็น Entertainment Complex ครบวงจร กิจการมีศักยภาพรองรับ พ.ร.บ.กาสิโน ในอนาคตได้

          นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์ภาพภายในอาคารที่มีอ่างอาบน้ำหรู ห้องอาบน้ำแบบใส ถ้านอนอยู่บนเตียงสามารถมองเข้าไปข้างในได้ชัด
ประกาศเซ้งอาบอบนวดพระราม 9 ราคา 17 ล้าน

ประกาศเซ้งอาบอบนวดพระราม 9 ราคา 17 ล้าน

หนุ่มเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ซ่อนแหวนในเค้ก ช็อกกลับ สาวกัดหักเต็มคำ น้ำตาจะไหล

          หนุ่มทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน ซ่อนแหวนในเค้ก จุดจบต้องเซอร์ไพรส์เอง สาวกัดเต็มคำจนแหวนหัก เห็นสภาพน้ำตาจะไหล



หนุ่มเซอร์ไพรส์ซ่อนแหวนขอแต่งงานในเค้ก
ภาพจาก  Xiaohongshu 少7一点8!

          ไอเดียขอแต่งงานแปลก ๆ มักมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง หลายคู่รักพยายามจะสรรหาวิธีต่าง ๆ มาเซอร์ไพรส์กัน ซึ่งเป็นความชอบส่วนบุคคลไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่บางกรณีอาจจะต้องเผื่อใจสำหรับความผิดพลาดอย่างที่คาดไม่ถึง จากความโรแมนติกชวนซาบซึ้ง อาจจะกลายเป็นน้ำตาไหลของจริง

          เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 เว็บไซต์ Hk01 เผยเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งในประเทศจีน ที่เผชิญกับเหตุการณ์ “เซอร์ไพรส์ขอแต่งงานสุดช็อก” ภายหลังจากฝ่ายชายนำแหวนไปซ่อนในเค้ก แต่ฝ่ายหญิงไม่รู้เรื่องจึงกัดเข้าไปเต็มคำ กลายเป็นเจอเซอร์ไพรส์ของจริง เมื่อพบว่าแหวนขอแต่งงานถูกกัดหักสะบั้น

หนุ่มเซอร์ไพรส์ซ่อนแหวนขอแต่งงานในเค้ก
ภาพจาก  Xiaohongshu 少7一点8!

          โดยฝ่ายหญิงได้โพสต์ภาพและเรื่องราวผ่านทางเสี่ยวหงซู
(Xiaohongshu) แฟลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน เผยว่า
วันนั้นเธอกลับมาถึงบ้านและได้ไปหยิบเค้กเผือกที่เธอซื้อไว้ออกมากิน
แต่ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น
เธอรู้สึกว่าฟันของเธอกัดไปโดนสิ่งแปลกปลอมบางอย่างแข็ง ๆ จึงรีบคายออกมา
เมื่อเห็นว่ามันเป็นเศษวัตถุสีทอง 2 ชิ้น
เธอก็ตกใจและเตรียมที่จะร้องเรียนไปยังร้านเค้ก

          กระทั่งทางแฟนหนุ่มของเธอเข้ามาเห็นเหตุการณ์ เขาจึงรีบหยิบ “สิ่งแปลกปลอม” ที่แฟนสาวคายออกมาไปทำความสะอาด ก่อนที่จะสารภาพอย่างเขินอายว่า มันคือ “แหวนขอแต่งงาน” ที่เขาเตรียมไว้เซอร์ไพรส์เธอ แม้ว่าตอนนี้มันจะอยู่ในสภาพที่น่าเศร้าจนดูไม่เหลือความเป็นแหวนแล้ว

หนุ่มเซอร์ไพรส์ซ่อนแหวนขอแต่งงานในเค้ก
ภาพจาก  Xiaohongshu 少7一点8!

         
ในตอนแรกทางฝ่ายหญิงเข้าใจว่าแฟนหนุ่มของเธอแกล้งเล่น
แต่เมื่อทางฝ่ายชายยืนยันความจริง ทั้งสองก็ได้แต่หัวเราะออกมา
เพราะไม่คาดคิดว่าแรงกัดของเธอจะมีพลังจนถึงขนาดทำให้แหวนหักได้
แฟนหนุ่มของเธอมีท่าทางสับสนเล็กน้อย และถามด้วยความกังวลว่า “ฉันควรทำอย่างไรดี ฉันควรคุกเข่าลงไหม ?”

         
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานครั้งนี้จะผิดพลาดไป
แต่ท้ายที่สุดทั้งสองก็ตกลงแต่งงานกันสำเร็จ
ส่วนเรื่องแหวนก็ค่อยไปว่ากันอีกที

          หญิงรายนี้ได้ฝากคำเตือนไว้ในโพสต์ของเธอว่า “เตือนผู้ชายทุกคนอย่าคิดซ่อนแหวนไว้ในอาหาร ไม่งั้นแหวนจะหัก ฮ่า ๆ โชคยังดีที่หักแค่แหวน ส่วนฟันของฉันยังอยู่ดี”

         
หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้โซเชียล
บางส่วนกล่าวติดตลกว่าฟันของเธอแข็งแกร่งมากที่กัดทองใด้ในขณะที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ควรเซอร์ไพรส์ด้วยการซ่อนสิ่งของในอาหาร
เนื่องจากเป็นอันตรายมาก คนสามารถกลืนมันลงท้องไปได้ง่าย ๆ  

          “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใส่ของเซอร์ไพรส์ในอาหารด้วย”

          “มันอันตรายมาก ไม่รู้ว่ามันโรแมนติกตรงไหน”

          “จุดจบเซอร์ไพรส์ อาจจะได้ไปฉลองกันที่โรงพยาบาล”

  

ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01

ดีเจภูมิ เปิดคลิปเอาทองคำแท่ง 1 กิโล ไปขายตอนนี้ได้เงินเท่าไหร่ เห็นกำไรแล้วอึ้ง

อาหารสกปรก กินหมดจานเพิ่งเห็นน้ำจิ้มมีเศษขาว ๆ อย่าเพิ่งคิดไกล น้ำจิ้มสกปรก

           กินอาหารหมดจาน เพิ่งเห็นน้ำจิ้มมีเศษขาว ๆ เห็นแล้วชวนอี๋ ไข่ตัวอะไร มาวางในน้ำจิ้มได้ ก่อนชาวเน็ตดับมโน อย่าเพิ่งคิดไปไกล มันไม่ใช่อย่างที่คิด



สิ่งแปลกปลอมในอาหาร

           วันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีการโพสต์การสั่งอาหารเมนูหนึ่ง แล้วมีน้ำจิ้มแถมมาด้วย จากนั้นพบความผิดปกติหลังจากกินไปหมดจาน จนต้องโพสต์ถามว่า มันคืออะไร ดังนี้

           กินอะไรให้ระวังน้ำจิ้มให้ดี ๆ นะคะ คือเราด้วยความยุ่งไม่ได้กินข้าวเช้าก็หิวมาก รีบจ้วงเอา ๆ แต่พอกินเสร็จก็เลยเริ่มสังเกตรอบข้าง เห็นอะไรขาว ๆ ในถ้วยน้ำจิ้ม ตอนแรกก็พยายามคิดว่ามันอาจจะเป็นเศษเม็ดพริกที่โดยปั่น แต่ด้วยความคาใจเลยใช้กล้องซูมดู มันชัดมาก

สิ่งแปลกปลอมในอาหาร

           ตอนแรกก็นึกว่ามันอาจจะมาวางไข่ในถ้วยเราตอนเราลุกไปทำอะไรหรือเปล่า
แต่พอเช็กถุงน้ำจิ้มอันอื่น ๆ ก็มีประปรายเกือบทุกถุงเลยค่ะ
อิ่มอร่อยเลยทีเดียว

           อย่างไรก็ตาม
งานนี้ชาวเน็ตไม่เห็นด้วยกับเจ้าของโพสต์ มองว่าคิดเยอะเกินไป
เพราะสิ่งที่เห็นในรูป ก็น่าจะเป็นเม็ดพริก ไม่ใช่ไข่อะไรทั้งนั้น

สิ่งแปลกปลอมในอาหาร

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย ชี้ถูกคุกคาม-บูลลี่ ก่อนจบชีวิต

 
               สื่อแฉ โอยอนอา นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย 17 หน้า ก่อนจบชีวิต ระบุเนื้อหาถูกคุกคาม บูลลี่ในที่ทำงาน ล่าสุด MBC โต้ไม่เคยรู้เรื่อง พร้อมสอบสวนถ้าครอบครัวร้องขอ



สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก YouTube Yoanna요안나

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก YouTube Yoanna요안나

              กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อเกาหลีใต้ กับกรณีการเสียชีวิตของ โอยอนอา (Oh
Yoanna) นักพยากรณ์อากาศสาวช่อง MBC ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน
2567 ด้วยวัยเพียง 28 ปี
ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดและสาเหตุการเสียชีวิตของเธอ
อย่างไรก็ตาม ไม่นานมานี้เรื่องราวของเธอกลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง
เมื่อมีสื่อท้องถิ่นรายงานเรื่องจดหมายลาตายที่เธอทิ้งไว้
ก่อนจะจบชีวิตตัวเอง

              โดยวันที่ 28 มกราคม 2568 เว็บไซต์ allkpop
รายงานว่า เมื่อวันก่อนสื่อท้องถิ่นเจ้าหนึ่งเปิดเผยว่า โอยอนอา
ได้ทิ้งจดหมายลาตาย 17 หน้ากระดาษ ไว้ในแอปฯ จดบันทึกในโทรศัพท์ของเธอ
ซึ่งเนื้อหาในจดหมายนั้นระบุถึงความทุกข์ทนและการล่วงละเมิดในที่ทำงาน
ที่เกี่ยวข้องกับเพื่อนร่วมงาน 2 คน ก่อนที่เธอจะจบชีวิตตัวเอง

              นอกจากนี้ เพื่อนของโอยอนอา ยังใช้สื่อโซเชียลมีเดียออกมาเปิดโปงเรื่องราวเกี่ยวกับการถูกบูลลี่ ที่โอยอนอาต้องทนทุกข์มาโดยตลอด

              รายงานระบุว่า
โอยอนอา เข้ามาร่วมงานกับ MBC ในตำแหน่งนักพยากรณ์อากาศเมื่อเดือนพฤษภาคม
2564 ก่อนจะตกเป็นเป้าถูกคุกคามตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565
ซึ่งในจดหมายที่เธอทิ้งไว้ ระบุว่าเธอได้แจ้งเจ้าหน้าที่ของ MBC ถึง 4 คน
ให้ทราบเรื่องการคุกคามดังกล่าว อย่างไรก็ตาม MBC
ไม่ได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม
เนื่องจากไม่มีข้อร้องเรียนอย่างเป็นทางการหลังการเสียชีวิตของเธอ

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก YouTube Yoanna요안나

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก YouTube Yoanna요안나

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก YouTube Yoanna요안나

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก YouTube Yoanna요안나

              อย่างไรก็ตาม
ต่อมาในวันที่ 28 มกราคม MBC ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ระบุว่า
ขณะนี้ทางสถานียังไม่ได้รับสำเนาของจดหมายลาตายดังกล่าว
ซึ่งหากทางครอบครัวของเธอร้องขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยอ้างอิงจากจดหมายที่เพิ่งถูกค้นพบ
ทาง MBC ก็พร้อมที่จะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดทันที หรือกล่าวคือ
ทางบริษัทพร้อมทำการสอบสวน หากครอบครัวของเธอร้องขออย่างเป็นทางการ

              MBC
ยังอ้างว่า ระหว่างที่ผู้ตายทำงานในฐานะฟรีแลนด์ให้กับทาง MBC
เธอไม่เคยแจ้งเรื่องร้องเรียนต่อแผนกที่เกี่ยวข้องใด ๆ เช่น
สำนักงานที่ปรึกษาทรัพยากรบุคคล หรือเจ้าหน้าที่บริหารใด ๆ
เกี่ยวกับความกังวลของเธอ
ซึ่งหากผู้ตายได้ร้องเรียนเกี่ยวกับความกังวลของเธออย่างเป็นทางการ
ไม่ว่าจะผ่านช่องทางที่เป็นทางการ
หรืออย่างน้อยก็แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบทราบ
บริษัทก็จะทำการสอบสวนอย่างเหมาะสมทันที

              MBC อ้างว่า
การล่วงละเมิดในที่ทำงานถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก
ทางบริษัทพร้อมใช้มาตรการที่เข้มงวดในเรื่องดังกล่าว
และจะสอบสวนคำร้องเรียนใด ๆ จากทั้งทีมงานและพนักงานฟรีแลนซ์ทันที
หากได้รับการรายงาน

              ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวอ้างว่าผู้ตายได้แจ้งคนของ
MBC ให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต
หากมีใครรู้ว่าบุคคลดังกล่าวคือใคร ขอให้แจ้งข้อมูลเข้ามา
และขอให้หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ
เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผู้ตายและป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่นด้วย

              จากกระแสข่าวดังกล่าว คณะกรรมการพิเศษด้านสื่อของพรรค People
Power Party (PPP) เผยแพร่แถลงการณ์ ระบุว่า MBC
กำลังหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบโดยกล่าวอ้างว่าผู้ตายไม่เคยร้องเรียนความกังวลต่อแผนกที่เกี่ยวข้อง
หรือผู้บังคับบัญชา
และขณะนี้เสนอว่าจะทำการสอบสวนก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากครอบครัวเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าแถลงการณ์ฉบับนี้เพิ่งทำขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มขึ้น

              ทั้งนี้
เราจะเปิดโปงความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์อันน่าเศร้านี้
และทำให้มั่นใจว่าคนที่รับผิดชอบ
จะต้องรับผิดชอบต่อผลทั้งทางกฎหมายและศีลธรรม

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก Instagram ohyoanna

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก Instagram ohyoanna

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก Instagram ohyoanna

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก Instagram ohyoanna

สื่อแฉ นักพยากรณ์อากาศสาว MBC ทิ้งจดหมายลาตาย
ภาพจาก Instagram ohyoanna

ขอบคุณข้อมูลจาก allkpop, The Korea Times

ความซนเป็นเหตุ ลูกปล่อยโฮตอนถึงบ้าน ชี้ให้แม่ดูหัว ช็อกก้อนอะไรติดหนึบ

          ความซนเป็นเหตุ ลูกปล่อยโฮตอนถึงบ้าน ชี้ให้แม่ดูหัว ทำแม่ตกใจมีอะไรติดอยู่ จนปัญญาจะเอาออก สุดท้ายต้องขอให้หมอช่วย



ความซนเป็นเหตุ ลูกปล่อยโฮตอนถึงบ้าน
ภาพจาก Phu Nu & Phap Luat


          วันที่ 11 มกราคม 2568 เว็บไซต์ Phu Nu & Phap Luat รายงานเรื่องราววุ่น ๆ ของคุณแม่รายหนึ่งในประเทศจีน ที่ตกใจหนักเมื่ออยู่ ๆ ลูกสาวที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนก็โผเข้ากอดพร้อมร้องไห้ ยิ่งเมื่อได้เห็นของแปลก ๆ ที่ติดอยู่บนหัวลูกก็ยิ่งตกใจ จนสุดท้ายเรื่องจบด้วยการพาลูกไปโรงพยาบาล

          รายงานเผยว่า ไม่นานมานี้ในกลุ่มผู้ปกครอง คุณแม่รายหนึ่งที่มีลูกสาวเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงตัวน้อย จนกลายเป็นที่พูดถึงกันทั่วโซเชียล โดยแม่เล่าวานวันก่อนตอนที่ลูกสาวกลับจากโรงเรียน ทันทีที่มาถึงประตูบ้าน ลูกสาวก็ร้องไห้เข้ามากอดแม่ ตอนแรกแม่ก็สับสน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอยู่ ๆ ลูกสาวก็มีท่าทีเช่นนี้ จนเมื่อลูกสาวยอมถอดหมวกและชี้ไปที่ผม แม่ก็ตกใจมากเมื่อเห็นผมของลูกสาวมีอะไรแปลก ๆ พันอยู่ ลักษณะเหนียวหนึบ

ความซนเป็นเหตุ ลูกปล่อยโฮตอนถึงบ้าน
ภาพจาก Phu Nu & Phap Luat


          แม่ได้เห็นแบบนี้ก็เริ่มตื่นตระหนกเช่นกัน
และสอบถามลูกสาวว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กหญิงจึงยอมสารภาพทั้งน้ำตา
ที่แท้เหตุการณ์เกิดจากความซน ตอนที่กำลังเล่นสไลม์อยู่กับเพื่อน ๆ
ที่โรงเรียน อยู่ ๆ เพื่อคนหนึ่งก็เอาสไลม์มายีใส่หัว
ทำให้เด็กหญิงอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่เพราะกลัวว่าจะถูกครูดุ
และใกล้ที่จะเลิกเรียนแล้ว เด็กน้อยเลยเก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ไม่บอกใคร
จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน

         
แม่รู้ว่ามันเป็นแค่การแกล้งกันของเด็ก ๆ ที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย
และเด็กก็ยังเล็กกันมาก จึงไม่ได้ดุลูก และยังช่วยปลอบลูกสาว
อธิบายสถานการณ์ให้ฟัง รวมถึงพยายามหาทางเอาสไลม์เหนียว ๆ ออกให้
แต่ใช้เวลาอยู่นานก็ยังไม่สามารถเอาออกได้
สุดท้ายแม่เลยตัดสินใจพาลูกสาวไปโรงพยาบาล
เพราะเกรงว่าจะทำอะไรผิดพลาดจนศีรษะของลูกบาดเจ็บ
และภายใต้คำแนะนำของแพทย์และพยาบาล
ในที่สุดเด็กหญิงก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติอีกครั้ง

ความซนเป็นเหตุ ลูกปล่อยโฮตอนถึงบ้าน
ภาพจาก Phu Nu & Phap Luat

         
เหตุการณ์นี้นับเป็นเรื่องที่สะท้อนได้เป็นอย่างดี ว่าความซนของเด็ก ๆ
นั้นเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม แม้ตอนอยู่ที่โรงเรียนจะมีครูคอยสอดส่องดูแล
แต่เนื่องจากมีนักเรียนอยู่มาก จึงอาจดูแลได้ไม่ทั่วถึงทุกคน
ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ครูก็ไม่คิดไม่ฝันเช่นกัน

 
ขอบคุณข้อมูลจาก Phu Nu & Phap Luat

ไฮโซพก ประธานวงศ์ โอนเงินต้อนรับน้องสะใภ้ ทำ แต้ว ณฐพร เห็นเลขแล้วตาโตเลย

ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 หน้าจอทางรัฐ ขึ้นมาแบบนี้ ยังคงได้รับ แจกเงิน 10000 บาทอีกไหม

         หน้าจอแอปฯ ทางรัฐ ขึ้นมาแบบนี้ ยังคงมีสิทธิได้เงินดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ไหม กับคำตอบว่า ได้หรือไม่ได้ ส่วนเฟส 3 คาดว่าจะแจกในไตรมาส 2 ของปี 2568


ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 หน้าจอทางรัฐ ขึ้นมาแบบนี้ ยังคงได้เงิน 10000 ไหม

         แม้รัฐบาลจะโอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จำนวน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุ 60 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2568 หลังจากนั้น สิ่งที่หลายคนโฟกัสคือ โครงการในเฟส 3 สำหรับบุคคลธรรมดาที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ จะเป็นอย่างไรต่อ

         
         วันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีการโพสต์หน้าจอแอปฯ ทางรัฐ ที่ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต สงสัยว่า แบบนี้ตัวเองจะได้รับเงินหรือไม่ มีข้อความว่า “ท่านลงทะเบียนสำเร็จ แต่ไม่เป็นผู้สูงอายุตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ระบบจะแจ้งผลการลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ให้ท่านทราบตามวันและเวลาที่รัฐบาลกำหนด”

ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 หน้าจอทางรัฐ ขึ้นมาแบบนี้ ยังคงได้เงิน 10000 ไหม

         สำหรับคำตอบเรื่องดังกล่าว มีข้อชัดเจนว่า มีการลงทะเบียนสำเร็จจริง และมีโอกาสที่จะได้เงินในเฟส 3 แต่ว่าทั้งหมดต้องตรงตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด ถึงจะได้รับสิทธิ ซึ่งจะประกาศภายหลังต่อไป

ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 หน้าจอทางรัฐ ขึ้นมาแบบนี้ ยังคงได้เงิน 10000 ไหม

เงื่อนไขการได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3

         – ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567

         – อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 60 ปี ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน

         
         – ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท (สำหรับปีภาษี 2566)

         – ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

         – ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ

ได้เงินเฟส 3 เมื่อไร

         จากกระแสข่าวก่อนหน้านี้ คาดว่า มีแนวโน้มที่จะได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2568

ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 หน้าจอทางรัฐ ขึ้นมาแบบนี้ ยังคงได้เงิน 10000 ไหม
ภาพจาก ทางรัฐ.com

คณะลูกขุนเมืองเลสเตอร์ มีคำตัดสิน กรณี ฮ. เจ้าสัววิชัย ตกที่อังกฤษ เมื่อ 6 ปีก่อน

           คณะลูกขุนเมืองเลสเตอร์ มีคำตัดสิน กรณี ฮ. เจ้าสัววิชัย ตกที่สนามคิง เพาเวอร์ เมื่อ 6 ปีก่อน ระบุเป็นอุบัติเหตุ พบปัญหาที่ลูกปืนคู่ ระบบควบคุมใบพัดหาง



ฮ. เจ้าสัววิชัย ตก
ภาพจาก OLI SCARFF / AFP

           ความคืบหน้ากรณี เฮลิคอปเตอร์เลโอนาร์โด AW169 ตกที่สนามฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 เป็นเหตุให้ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เสียชีวิต พร้อมนักบินและผู้ติดตามอีก 4 คน ซึ่งทางเมืองเลสเตอร์ ได้เปิดการไต่สวนเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น โดยการไต่สวนจะดำเนินการโดยศาสตราจารย์แคทเธอรีน เมสัน ต่อหน้าคณะลูกขุน ณ ศาลากลางเมืองเลสเตอร์

อ่านข่าว : เมืองเลสเตอร์ เริ่มไต่สวนกรณีอุบัติเหตุ ฮ. คุณวิชัย ตก

           ล่าสุด (28 มกราคม 2568) เว็บไซต์ Sky News รายงานว่า คณะลูกขุนมีคำตัดสินกรณีการเสียชีวิตของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา พร้อมนักบินและผู้ติดตามอีก 4 คน ว่าเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่ทางทนายความอาวุโส ฟิลิป เชพเพิร์ด ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวศรีวัฒนประภา กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตคือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ในอุบัติเหตุร้ายแรงที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

           คณะลูกขุนได้รับฟังข้อมูลระหว่างการไต่สวน พบว่าขณะที่เฮลิคอปเตอร์ออกจากสนามฟุตบอลเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 เกิดความผิดพลาดที่ทำให้เฮลิคอปเตอร์หมุนเคว้งอย่างเสียการควบคุม ก่อนจะตกนอกสนามและระเบิดเป็นไฟ โดย จอน รุดกิน ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของเลสเตอร์ เผยว่าเฮลิคอปเตอร์เริ่มหมุนวน ก่อนจะดิ่งเอาหัวลงออกจากพื้นที่สนาม โดยที่เครื่องยังหมุนเคว้งกลางอากาศ

เจ้าสัววิชัย
ภาพจาก Ian Kington / AFP

           ระหว่างการไต่สวน ยังมีการแสดงภาพแอนิเมชันของความเสียหายที่เกิดขึ้นทางกล พบว่าลูกปืนคู่ที่ใบพัดหางของเฮลิคอปเตอร์เกิดการยึดและล็อก ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมจนหมุนเคว้ง ขณะที่ มาร์ก จาร์วิส ผู้ตรวจการของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (AAIB) ระบุว่า นักบินได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เครื่องตก   

           อนึ่ง รายงานของ AAIB ก่อนหน้านี้ สรุปสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกว่า มาจากความล้มเหลวของลูกปืนคู่และระบบควบคุมใบพัดหาง ซึ่งบริษัทเลโดอนาร์โดได้ระบุไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งหากเกิดการล้มเหลวจะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นหายนะ ความล้มเหลวดังกล่าวส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์สูญเสียการควบคุม และหมุนคว้างอย่างรุนแรงจนตกลงมาสู่พื้นดินก่อนเกิดไฟลุกไหม้ในที่สุด

 ฮ. เจ้าสัววิชัย ตก
ภาพจาก Ben STANSALL/AFP

          การไต่สวนยังพบว่าทางตำรวจพยายามทุบกระจกเฮลิคอปเตอร์หลังเครื่องตก
แต่ไม่สามารถทำลายโครงสร้างที่แข็งแรงมาก
ซึ่งออกแบบมาเพื่อทนต่อการถูกนกชนด้วยความเร็ว 180 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งนี้
พบว่าผู้เสียชีวิต 1 ราย
เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บเมื่อเฮลิคอปเตอร์กระแทกพื้น ขณะที่อีก 4 คนนั้น
รอดจากการตกมาได้ แต่ต้องจบชีวิตจากการสูดควันไฟ
 
           หลังจากคณะลูกขุนมีคำตัดสิน
นายเชพเพิร์ด ได้ออกแถลงการณ์นอกศาลากลางเมืองเลสเตอร์ กล่าวว่า
แม้ไม่มีส่วนใดในคำพิพากษาที่ระบุว่าใครคือผู้ที่ถูกกล่าวโทษต่อเหตุการณ์นี้
แต่พยานหลักฐานได้บอกเล่าเรื่องราวความล้มเหลวทางวิศวรรมพื้นฐานของ
บริษัทเลโดอนาร์โด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์

           โดยสาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงข้อผิดพลาดในการออกแบบพื้นฐาน
และความล้มเหลวในการลดความเสี่ยงที่ทราบอยู่แล้ว
คณะลูกขุนก็ได้รับฟังหลักฐานจากการไต่ส่วน
ที่บ่งชี้ว่าจากการออกแบบดังกล่าว
โศกนาฏกรรมนี้เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่จะมีบางสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น
มันเป็นอุบัติเหตุที่รอเวลาเกิดขึ้น

           ทั้งนี้
ทางครอบครัวยืนยันว่าจะยังเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหาย 2.15
พันล้านปอนด์ จากบริษัทเลโดอนาร์โด
โดยระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นเหมือน “กับดักแห่งความตาย” และ “อุบัติเหตุที่รอวันเกิดขึ้น”

ขอบคุณข้อมูลจาก Sky News, BBC