แสตมป์ อภิวัชร์ ออกมาขอโทษเรื่องราวที่เกิดขึ้น สรุปเหตุการณ์ ดราม่าแสตมป์

แจงที่มา แสตมป์ โดน ม.112 ฝ่าย เติร์ด Tilly Birds – โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย


          แก๊ป ลาออกจากวง ด้าน เติร์ด Tilly Birds – โอม Cocktail เพิ่งรู้ข้อมูลทุกอย่างจากโหนกระแส ย้ำไม่เห็นด้วยใช้กฎหมายการเมืองปิดปากใคร ด้านทนายแจงที่มา แสตมป์ โดน ม.112 



แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย
ภาพจาก Instagram stampapiwat

          จากมหากาพย์ดราม่า แสตมป์ อภิวัชร์ ซึ่งกลายมาเป็นที่จับตาอีกหลัง แก๊ป แฟนหนุ่มของ แจม คู่กรณี ได้มาออกรายการโหนกระแส ชี้แจงเรื่องราวในมุมต่าง ๆ ทั้งเรื่องการคุกคาม เรื่องที่ แจม ยอมจ่าย 1 ล้านให้ นิว เพื่อจบปัญหา ตลอดจนเรื่องของการขู่ใช้ ม.112 โดยที่ต่อมา ทนายเดชา ได้ออกแถลงข่าวแทนคู่กรณี ยืนยันว่าหลังแสตมป์ขอโทษ ฝ่ายหญิงขอยุติเรื่องทั้งหมด ยกเว้นเรื่องคดีหมิ่นสถาบัน ม.112 ที่ให้ดำเนินคดีต่อ โดยมีพยานหลักฐานข้อความแชต 

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย
ภาพจาก โหนกระแส

          จากกระแสที่เกิดขึ้น ล่าสุด (20 มกราคม 2568) ทำให้คนดังหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน รวมถึง เติร์ด Tilly Birds และ โอม Cocktail โดยมีการโพสต์ข้อความลง X ซึ่งข้อความของ โอม ระบุว่า

          “สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมเองได้รับทราบไปพร้อมกับทุกคนและผมไม่เห็นด้วยกับการนำเอาคดีทางการเมืองมาใช้ปิดปาก บุคคลให้ไม่สามารถต่อสู้ในคดีที่ต่อสู้กันในประเด็นอื่นได้อย่างยุติธรรมครับ”

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย
ภาพจาก Instagram ohmhar

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย

          ขณะที่ เติร์ด ชี้แจงว่า “สวัสดีครับ ผมเติร์ด tilly birds ครับ จากเหตุการณ์ในวันนี้ ทางผมและวงเรียนตามตรงว่าเพิ่งจะทราบถึงข้อมูลทุกอย่างโดยละเอียดจาก รายการโหนกระแส พวกเราจึงได้มีการคุยกันเพื่อยุติการทำงานในวงของคุณแก๊ปโดยทันที อย่างไรก็ตาม คุณแก๊ปขอแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องราวทั้งหมด โดยการลาออก พวกเราเคารพการตัดสินใจของเขา และขอยืนยันว่าผมไม่เห็นด้วยโดยสิ้นเชิงในการใช้กฎหมายทางการเมืองมาปิดปากใคร คุณแสตมป์ควรได้สู้คดีอย่างยุติธรรม”

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย
ภาพจาก X @2nd__4th

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย

          ทางด้าน แก๊ป แฟนของคู่กรณีแสตมป์ ได้โพสต์ข้อความถึงสถานะการทำงานกับวง Tilly Birds ในตอนนี้ โดยระบุว่า “จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจนถึงขณะนี้ ผมได้ตระหนักดีว่าในฐานะที่ต้องติดตามวงไปทำงานอาจนำพาความยุ่งยากและปัญหามาให้วง ผมจึงขอลาออกจากการทำงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และขอโทษที่ทำให้เรื่องส่วนตัวมีผลกระทบครับ”

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย

          ทั้งนี้ ในส่วนคดี ม.112 ทางทนายเดชา ได้ให้คำอธิบายเพิ่มว่า เกิดจากการที่แสตมป์ไปร้องเรียนกองทัพบก หลังจากนั้นนายพลจึงไปชี้แจง เป็นที่มาของการดำเนินคดี โดยทนายเดชาได้รับแจ้งจากนายพล ว่าแสตมป์ไปร้องเรียนกับกองทัพบกว่านายพลใช้ ม.112 ไปข่มขู่ หลังจากนั้นมีการสอบสวน และสรุปว่ามีข้อความที่น่าจะหมิ่นสถาบัน จึงมีการดำเนินคดีตามกฎหมายเกิดขึ้น

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย

แสตมป์ โดน ม.112 เติร์ด Tilly Birds โอม Cocktail แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย

ภาพจาก โหนกระแส

เพจดังแฉ อดีตดาราสาว ยืมเงินไปปล่อยกู้ อ้างชื่อนักการเมือง กว่า 20 ล้าน ทวงไม่คืน

หญิงสุดแค้น อดีตรอง ผอ. ลวงขืนใจในรถ แอบเก็บคราบอสุจิส่งตำรวจ จี้เอาผิด


          ธุรการหญิง ร้องถูกอดีตรอง ผอ. ลวงขืนใจบนรถ ย้ำเอาเรื่องถึงที่สุด เก็บทิชชูมีคราบอสุจิเป็นหลักฐาน ชี้คนร้ายย้ายไปเป็น ผอ. ที่โรงเรียนอื่น หวั่นก่อเหตุซ้ำ



รอง ผอ. โรงเรียน ข่มขืนธุรการสาว เหยื่อสุดแค้นร้องเอาผิด
ภาพจาก วันใหม่ ไทยพีบีเอส

          วันที่ 21 มกราคม 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากหญิง อายุ 29 ปี พนักงานธุรกิจของโรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครนายก ซึ่งร้องเรียนว่าถูกอดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษา ลวงไปข่มขืนในรถยนต์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 บริเวณริมถนนแยกสุพรรณิการ์ ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก โดยหลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก แล้ว

          ผู้เสียหาย เผยว่า ในวันดังกล่าวตนเดินทางไปธนาคาร โดยมีอดีต รอง ผอ. ดังกล่าวขับรถมาทำธุระที่ธนาคารเช่นกัน และฝากให้ตนกดเงินสด ระหว่างรอคิว อดีตรอง ผอ. อ้างว่ามีงานด่วนต้องรีบไป ให้ตนขึ้นรถติดไปด้วย แต่กลับพาไปคนละทางกับทางกลับโรงเรียน

          เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็เริ่มลวนลาม ตนเองสู้แรงไม่ไหว จึงถูกล่วงละเมิดทางเพศจนสำเร็จความใคร่ จากนั้น อดีตรอง ผอ. ให้เงินสดตนมา 3,000 บาท บอกให้เอาไปกินเที่ยวช่วงปีใหม่ สร้างความเจ็บแค้นให้ตนมาก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องให้สามีฟัง รวมถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาของ อดีตรอง ผอ. รายนี้  

รอง ผอ. โรงเรียน ข่มขืนธุรการสาว เหยื่อสุดแค้นร้องเอาผิด
ภาพจาก วันใหม่ ไทยพีบีเอส

          โดยที่ผ่านมา อดีตรอง ผอ. ชอบพูดจาทะลึ่ง และชอบลวนลามผู้หญิงบ่อยมาก เคยมีคนโดนแบบตนมาแล้วแต่ก็ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะอับอาย ก่อนหน้านี้ตนเคยจะถูกอีกฝ่ายข่มขืนที่โรงเรียนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่รอดมาได้ ซึ่งในครั้งนี้ตนได้นำหลักฐาน 2 อย่าง เป็นกระดาษทิชชูเช็ดคราบอสุจิ และเงิน 3,000 บาท ที่คู่กรณีให้มา นำมามอบแก่พนักงานสอบสวน เพื่อเป็นหลักฐาน และให้นำไปตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

          แต่จากนั้น อดีตรอง ผอ. โทร. มาต่อว่าตน ถามว่าทำไมถึงแจ้งความ จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ แต่ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตนจึงนำเรื่องไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครนายก และอยากให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ หวั่นจะไปก่อเหตุที่โรงเรียนอื่นอีก

          ผู้เสียหายยังมองว่าคดีเกิดขึ้นมาเกือบ 1 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นตำแหน่ง ย้ายไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการที่ จ.ปราจีนบุรี แล้ว

          ในส่วนความคืบหน้าทางคดี ทางตำรวจแจ้งว่าอยู่ระหว่างรอผลตรวจอสุจิจากทางโรงพยาบาล หากพบว่าเป็นของ อดีตรอง ผอ. จริง ๆ จะออกหมายเรียกตามขั้นตอน โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
 

รอง ผอ. โรงเรียน ข่มขืนธุรการสาว เหยื่อสุดแค้นร้องเอาผิด
ภาพจาก วันใหม่ ไทยพีบีเอส

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, วันใหม่ ไทยพีบีเอส

โอม Cocktail ร่ายยาว สรุปดราม่า แสตมป์ – แก๊ป – แจม 2 ปีนี้เกิดอะไร ย้ำจุดยืนของค่าย

กรรชัย เผยปมใหญ่คดีภรรยา แสตมป์ ฟ้องแจม มีข้อตกลงนี้จริงไหม

         หนุ่ม กรรชัย เผยปมใหญ่ที่ นิว ภรรยา แสตมป์ อภิวัชร์ ฟ้อง แจม คดีชู้สาว อีกฝ่ายมีอีกข้อตกลงที่ต้องทำ ด้าน แก๊ป แฟนหนุ่ม ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งดังกล่าว



กรรชัย เผยปมใหญ่ที่ ภรรยาสแตมป์ ฟ้องแจม
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์


          จากประเด็นร้อนระหว่าง แสตมป์ อภิวัชร์ กับคู่กรณี หลังนักร้องดังเปิดเรื่องที่ภรรยาถูกคุกคาม และสร้างเรื่องจนได้รับความเสียหาย จนมีคดีความฟ้องร้องที่ศาล แต่ต่อมา แก๊บ แฟนของ แจม หญิงคู่กรณี ซึ่งทำงานกับวง ทิลลี่เบิร์ดส์ ออกมาเปิดเอกสารคดีว่าไม่มีคดีการคุกคามใด ๆ แบบที่อ้าง แต่มีการฟ้องร้องกันในหลายคดี รวมถึงเรื่องชู้สาวนั้น

          วันที่ 20 มกราคม 2568 หนุ่ม กรรชัย เปิดเผยในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 ถึงปัญหาของ แสตมป์ กับ แจม ว่าเรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ฝั่ง เพราะ แสตมป์ ยืนยันว่าคบหากับ แจม จริง ๆ ทาง นิว ภรรยา จึงมีการฟ้องร้อง แต่ข้อนี้ไม่ได้มีการยอมรับจากฝ่ายแจมและแก๊ป ทำให้ นิว ถูกมองว่าไปฟ้องแจมทำไม เป็นบ้าเหรอ ที่ไปฟ้องคนที่ไม่ได้คบกับแสตมป์จริง ๆ และคดีก็ไม่ได้ถูกตัดสินตามกระบวนการ แต่จบที่การไกล่เกลี่ย และไม่ได้มีการคุกคามกันจริงใช่หรือไม่

กรรชัย เผยปมใหญ่ที่ ภรรยาสแตมป์ ฟ้องแจม
ภาพจาก  Instagram stampapiwat

          หนุ่ม กรรชัย เผยว่า เรื่องนี้จริง ๆ
คุณแสตมป์ต้องเป็นคนพูดเอง แต่เอาที่ทราบมาคือ ในวันที่มีการเจรจาในศาล
คุณแจมก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องการที่จะยอมความและยอมรับข้อเท็จจริง
นั่นคือเรื่องการคบหากับแสตมป์ มีการจ่ายเงิน 1 ล้านแบบผ่อนชำระ
และมีอีกข้อตกลง 1 ข้อคือ ให้แจมมาบอกแก๊ปและคนอื่นด้วยว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากการคบหากับแสตมป์จริง ๆ
แต่พอออกมาฝั่งของแจมไม่ได้ทำตามข้อตกลงและโพสต์แซะอีก
ทำให้เป็นประเด็นที่แสตมป์และนิวทนไม่ไหว

         
จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งหมดก็ไปเจอกับงานคอนเสิร์ตหนึ่งที่มีแก๊ปทำงานกับวงดนตรี และแจมก็มาด้วย แสตมป์เห็นก็ไม่โอเค
จึงไปพูดอีกครั้งว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ทางวง ทิลลี่เบิร์ดส์
ก็ฟังจากมุมในคนของเขาคือ แก๊ปและแจม
ไม่ได้เป็นอย่างที่แสตมป์พูดว่าแสตมป์ชนะคดี แต่เป็นการจ่าย 1 ล้าน
เพื่อให้เรื่องมันจบ ทิลลี่เบิร์ดส์ จึงมองเป็นประเด็นชู้สาว
แต่แสตมป์มองว่าเป็นการยอมความต่อศาลจริง ๆ ต่อหน้าศาล
เรื่องมันมีอยู่แค่นี้

กรรชัย เผยปมใหญ่ที่ ภรรยาสแตมป์ ฟ้องแจม
ภาพจาก โหนกระแส

          วันนี้ 2
มุมที่พูดไม่เหมือนกันคือ นิว ยืนยันว่า แจมคบกับแสตมป์จริง จึงฟ้องแจม
มุมของแจมก็มองว่า มาฟ้องฉันได้อย่างไร เพราะเธอไม่ได้คบกับแสตมป์
แต่แสตมป์บอกว่า ผมคบกับแจม แต่แจมมาบอกแก๊ปซึ่งเป็นแฟนตัวเองว่าไม่ได้คบ
ข้อมูลทั้งหมดส่งไปที่ทิลลี่เบิร์ดส์ วงก็ต้องฟังคนของเขา จึงอาจถูกวิจารณ์ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า คบหรือไม่คบ
ยังไม่รวมถึงเรื่องมีการข่มขู่จริงไหม และประเด็น ม.112 จริงไหม
เกิดอะไรขึ้น ประมาณแบบนี้

          ขณะที่
แก๊ป เปิดใจในรายการโหนกระแส ถึงเรื่องคำสั่งศาลคดีที่ แจม ยอมจ่าย 1
ล้านบาท ยืนยันว่า
ไม่ได้มีคำสั่งศาลให้ต้องออกมาแก้ไขข้อเท็จจริงตามที่ฝ่ายแสตมป์กล่าวอ้าง

ครอบครัว 3 คน เสียชีวิตตามกัน เพื่อนบ้านช็อก ชี้เหตุเกิดหลังวันรู้ผลสอบลูก

          โศกนาฏกรรม ครอบครัว 3 คน ตกตึกเสียชีวิตตามกัน เพื่อนบ้านสะเทือนใจเห็นภาพช็อก ลือต้นเหตุเพราะลูกสาวสอบไม่ได้ 100 คะแนนเต็ม แห่วิจารณ์การศึกษา



สลด ครอบครัว 3 คน เสียชีวิตตามกัน ลือต้นเหตุจากคะแนนสอบลูก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 19 มกราคม 2568 เว็บไซต์ China Press และสื่อในมาเลเซียกับไต้หวัน มีรายงานเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งในย่านชุมชน ของเขตหมินหาง เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกสาวชั้น ป.5 เสียชีวิตตามกัน หลังตกลงมาจากอาคารที่พัก โดยภาพขณะที่ทางตำรวจกำลังนำผ้าสีฟ้ามาคลุมทั้ง 3 ร่าง ได้สร้างความสะเทือนใจแก่คนทั้งชุมชน

          รายงานเผยว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุนั้น แม้ทางตำรวจจะยันไม่ออกมายืนยัน และยังต้องสืบสวนหาสาเหตุเบื้องหลังการตัดสินใจของครอบครัวนี้ แต่มีกระแสข่าวระบุว่าโศกนาฏกรรมนี้เกี่ยวข้องกับผลการสอบของลูกสาว โดยเด็กหญิงซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.5 ทำคะแนนสอบได้ไม่เต็ม 100 ในการสอบปลายภาค ทำให้ถูกแม่ดุรุนแรง เด็กหญิงที่เผชิญต่อแรงกดดันและคำต่อว่า จึงเลือกที่จะโดดลงมาจากอาคารสูง

          การเสียชีวิตของลูกสาวทำให้พ่อแม่ใจสลาย และท้ายที่สุดพวกเขาก็เลือกที่จะตามลูกสาวไปทีละคน นำไปสู่จุดจบของทั้งครอบครัว


          ด้านหนึ่งในพยานที่เห็นเหตุการณ์ โพสต์ข้อความบนโซเชียล
เล่าว่า เด็กหญิงที่อยู่ที่ห้องด้านล่างห้องของเธอ
ตกลงไปจากตึกหลังมีการประกาศผลสอบปลายภาคได้ 1 วัน
เธอเห็นตำรวจและดับเพลิงเข้ามาจัดการกับที่เกิดเหตุ
กระทั่งมีรถมารับศพออกไป สิ่งที่พบเห็นนั้นทำให้เธอช็อกหนัก
ต้องพิงกระจกร้องไห้อยู่เป็นเวลานาน

         
เหตุสลดที่เกิดขึ้นกลายมาเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมาก
ชาวเน็ตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เรื่องระบบการศึกษาที่มีการแข่งขันสูง
ที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนี้ บางคนยังบอกว่า “หลายครอบครัวรู้ดีว่าเกรดนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลูกโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง
แต่พวกเขาก็ไม่อาจคุมอารมณ์ให้ดีได้เมื่อได้เห็นผลการเรียนของลูก”
 

ขอบคุณข้อมูลจาก China Press  

หนุ่ม กรรชัย – ทนายแก้ว ฝากถึงแก๊ป ปมแจมยอมจ่าย 1 ล้าน ให้เมียแสตมป์

          ดราม่าแสตมป์นอกใจภรรยา แต่ แจม โต้ไม่เคยคบ ด้าน หนุ่ม กรรชัย อธิบาย แก๊ป ลองมองอีกมุมด้วย เจ้าตัวยืนยันยังคิดเหมือนเดิม



พี่หนุ่ม ทนายแก้ว ฝากมุมนี้ถึงแก๊ป
ภาพจาก โหนกระแส

          วันที่ 20 มกราคม 2568 โหนกระแสวันนี้ เปิดใจ แก๊ป แฟนหนุ่มของ แจม คู่กรณีของ แสตมป์ อภิวัชร์ ที่ทางแสตมป์ออกมายอมรับว่า เคยนอกใจไปคบหากับ แจม จนเป็นเหตุให้ นิว ภรรยาแสตมป์ ฟ้องศาล โดยแจมได้ตกลงจ่ายเงิน 1 ล้านบาทให้กับนิว โดยฝ่ายนิวนั้นอ้างว่า คดีนี้แจมต้องเป็นฝ่ายที่นำข้อเท็จจริงไปแจ้งให้คนอื่นได้ทราบด้วย

          อย่างไรก็ดี แจม ได้โฟนอินพูดคุยกับ หนุ่ม กรรชัย ยืนยันว่า ไม่เคยคบหากับแสตมป์ เช่นเดียวกับ แก๊ป ที่ยืนยันว่าจากที่อยู่ด้วยกันมาตลอดช่วงเวลานั้น แจม ไม่เคยคบกับแสตมป์ แต่ยอมรับว่า นักร้องชื่อดังมีความพยายามเข้าหาในเชิงจีบแจมจริง

พี่หนุ่ม ทนายแก้ว ฝากมุมนี้ถึงแก๊ปภาพจาก โหนกระแส

กรรชัย – ทนายแก้ว วิเคราะห์ปม แจม ยอมชดใช้นิว 1 ล้าน มองได้ว่าเหมือนยอมรับกลาย ๆ  

          ทนายแก้ว ให้ความเห็นว่า ในมุมกฎหมายที่อีกฝ่ายฟ้องเรื่องชู้สาว
ฝ่ายโจทก์ต้องเป็นฝ่ายหาหลักฐาน
ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีหลักฐานอะไรบ้างจนทำให้จำเลยตกลงประนีประนอม
ในมุมของแก๊ปก็คงเชื่อว่าแฟนเราไม่ได้ไปมีสัมพันธ์กับเขา

         
หนุ่ม กรรชัย เสริมว่า 1 ล้านบาท ที่มีการจ่ายให้ภรรยาแสตมป์
ในมุมของแก๊ปกับแจมมองว่าเป็นการตัดปัญหา แต่ในมุมของ นิวกับแสตมป์
มันคือการยอมความ และยอมรับข้อเท็จจริงว่าเคยไปคบหากับเขาจริง
คุณจึงยอมจ่าย 1 ล้านบาท ตามหลักมันเป็นแบบนั้น ต่อให้วันนี้ฝั่งคุณจะบอกว่าจ่ายเพื่อตัดปัญหาจะได้จบ ๆ มันไม่ใช่
ถ้ามันไม่ใช่ คุณจะไปจ่ายทำไม 1 ล้าน
เผลอ ๆ
คุณจะฟ้องกลับเขาได้ด้วยที่ฟ้องเท็จ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้คบกันจริง
แจมสามารถฟ้องนิวไส้แตกได้เลยนะ ติดคุกได้เลยนะ

          แก๊ป เผยว่า ส่วนตัวมองในเรื่องเวลา เพราะคดีคงไม่ได้จบง่าย ๆ

         
หนุ่ม กรรชัย มองว่า มันไม่ใช่เรื่องของเวลา
ประเด็นคือข้อเท็จจริงมันอยู่ตรงไหน อันนี้ฝากไปบอกแจม เพราะคนคนหนึ่ง ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้คบหาฉันชู้สาวกับสามีของนิว คุณจะไปยอมทำไม 1 ล้าน แม้คดีจะไม่ได้ขึ้นชั้นศาล แต่มันเป็นการยอมความในประเด็นไปแล้ว

          ด้านทนายแก้ว เสริมว่า ใช่ครับ เป็นการยอมรับกลาย ๆ ไปครับ เพราะในเนื้อหาคำฟ้องมันมี ช่วงท้ายจะจบที่ให้เราจ่ายค่าทดแทน

หากแสตมป์โกหก จะยอมรับทำไมว่านอกใจเมีย ถ้าไม่เคยคบกับแจมจริง ๆ

         
หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า พี่อาจจะคิดผิดก็ได้ ในเมื่อคุณมองแบบนั้น
แจมบอกว่าไม่ได้คบกัน แต่ในมุมพี่ ลองถามแก้วว่า เราเป็นผู้ชาย
กล้ายืนต่อหน้าเมียแล้วบอกว่าเราเคยไปคบกับผู้หญิงอื่นแล้วไปมีสัมพันธ์ด้วยไหม
ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง
(ทนายแก้ว ตอบว่า ไม่ครับ) มันแทบจะไม่มีคนพูด

          ทนายแก้ว : เราเอาวิญญูชนนะครับ จะทำไปทำไม ถ้าฝ่ายชายถูก เราเถียงหัวชนฝาอยู่แล้ว

          หนุ่ม กรรชัย : พี่ไม่ได้พูดให้มีปัญหากับแจม แต่พูดให้มีอีกมุมหนึ่ง

         
ขณะที่ แก๊ป บอกว่า จากนี้คงต้องคุยกับแจม แต่ยืนยันว่ายังคงคิดเหมือนเดิม (ไม่เชื่อเรื่อง แจม คบ แสตมป์) รวมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า
การกระทำของอีกฝ่ายนั้นทำไปเพื่ออะไร
และที่เขาบอกว่าหลังไกล่เกลี่ยแล้วแจมต้องออกมาแก้ไขสิ่งที่โกหก
เท่าที่รู้มาคือมันไม่ได้มีอะไรแบบนั้น

          หนุ่ม กรรชัย พูดอีกว่า เรื่องนี้ทั้ง 4 คน ก็มีเหตุผลของตัวเอง แต่ความจริงมันมีแค่ 1
เดียว ต้องมีใครคนหนึ่งโกหก แล้วไม่รู้ว่าเป็นใคร ลองวิเคราะห์กันได้

กรรชัย เห็นใจแก๊ป ไม่ผิดที่เชื่อคนของเขา แนะแม้แฟนเคยคบอีกฝ่ายจริงก็ต้องให้อภัย

         
สุดท้าย หนุ่ม กรรชัย ฝากถึงผู้ชมว่า ขอว่าอย่าไปว่าแก๊ป เห็นใจเขาจริง ๆ
เขายึดมั่นใจความรัก เขารักของเขา มันคือคนของเขา แต่สุดท้ายถ้าวันหนึ่ง
ต่อให้เรื่องที่แสตมป์พูดเป็นเรื่องจริง ถ้าคุณผ่านเรื่องนี้ไปได้
คุณจะเป็นคนที่ดูแลแฟนได้ดีที่สุด จับมือกันให้แน่น จะไม่มีอะไรมาทำลายได้
ทุกสิ่งมันคือการให้อภัย

         
วันนี้แสตมป์เขาพูดความจริงกับเมียเขาแล้ว เขาออกมาปกป้องเมียเขา
ในมุมของคุณ ถ้าวันหนึ่งแจมมายอมรับว่าเคยคบกับเขาจริง
คุณก็ต้องให้โอกาสเขาเหมือนกัน นึกออกใช่ไหม

พี่หนุ่ม ทนายแก้ว ฝากมุมนี้ถึงแก๊ป
ภาพจาก โหนกระแส

หนุ่มทำดีแต่เกือบซวย เก็บเงินล้านคืนเจ้าของ กลับถูกจี้ให้จ่าย 2 แสน เรื่องใหญ่ถึงศาล


          ชายเกือบซวยเพราะทำดี เก็บเงินล้านส่งคืนเจ้าของ กลับถูกจี้ให้จ่าย 2 แสน อ้างคืนเงินให้ไม่ครบ จากพลเมืองดี หวิดได้เป็นโจร สุดท้ายต้องขึ้นศาล



หนุ่มเก็บเงินล้านคืนเจ้าของ กลับถูกจี้ให้จ่าย 2 แสน สุดท้ายเรื่องถึงศาล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
          วันที่ 19 มกราคม 2568 เว็บไซต์ kenh14.vn รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ที่ทำเอาพลเมืองดีรายหนึ่งเกือบพบกับความซวย หวิดเสียเงินก้อนโตจากการทำความดี แถมถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวขโมยไปอีก ความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นทำให้ท้ายที่สุด เรื่องต้องขึ้นสู่ชั้นศาล

          รายงานเปิดเผยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นจากช่วงเย็นวันหนึ่ง นายหลี่ ที่กำลังเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน บังเอิญพบเงินสดมูลค่า 220,000 หยวน (ราว 1 ล้านบาท) ตกอยู่บนถนน เพราะเขาเป็นคนจิตใจดี จึงรีบไปแจ้งตำรวจพร้อมขอให้ช่วยตามหาเจ้าของเงินโดยเร็ว เพื่อที่จะนำเงินส่งคืนให้ ซึ่งทางตำรวจใช้เวลาเพียงไม่นานก็พบว่าเจ้าของเงินดังกล่าว เป็นแม่ค้าที่ทำธุรกิจอยู่บริเวณใกล้เคียง

          เมื่อแม่ค้าทราบว่ามีคนเจอเงิน ก็รีบมาขอบคุณนายหลี่และตั้งใจจะมอบเงินรางวัลเพื่อตอบแทนน้ำใจ แต่นายหลี่ปฏิเสธ จากนั้นต่างคนต่างก็แยกย้าย และเรื่องราวคล้ายจะจบลงด้วยดี

          แต่หลังจากนั้นนายหลี่กลับได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของเงิน อ้างว่าเงินที่เขาเก็บคืนมานั้นมียอดหายไปถึง 50,000 หยวน (ราว 235,000 บาท) และขอให้เขาจ่ายชดเชยเงินส่วนที่หายไป ได้ยินแบบนั้นนายหลี่ก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลยที่อยู่ ๆ อีกฝ่ายก็กล่าวหาเขาว่าเป็นขโมย แถมยังมาเรียกร้องให้จ่ายเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาปฏิบัติตามกฎหมายและหลักศีลธรรม

          นายหลี่ตั้งใจยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ตำรวจท้องถิ่นก็ไม่สามารถจัดการเรื่องให้ได้ ดังนั้นเขากับคู่กรณีจึงต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล  

          “ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ผิดมาก ๆ ผมนึกว่าตัวเองทำสิ่งดี ๆ แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้กับผม” นายหลี่ เผยอย่างเศร้า ๆ

หนุ่มเก็บเงินล้านคืนเจ้าของ กลับถูกจี้ให้จ่าย 2 แสน สุดท้ายเรื่องถึงศาล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          อย่างไรก็ตาม กฎหมายจีนระบุไว้ว่าบุคคลที่พบเจอทรัพย์สินที่สูญหาย ต้องนำส่งคืนเจ้าของหรือส่งให้ตำรวจ ซึ่งในจุดนี้นายหลี่ก็ปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง ด้วยการนำเงินมาให้ตำรวจช่วยหาเจ้าของทันที แต่ประเด็นอยู่ในที่ในจีนนั้น หากคนที่พบเจอทรัพย์สินไม่ได้เก็บรักษาให้ดี จนทำให้เกิดความเสียหายหรือสูญเสีย พวกเขาจะต้องจ่ายเงินชดเชยแก่เจ้าของทรัพย์สินด้วย

          โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีของคนที่เจอสร้อยคอซึ่งเป็นของมีค่า แต่นึกว่าเป็นแค่ของปลอมเลยโยนทิ้งถังขยะไป จากนั้นเมื่อเจ้าของสร้อยเช็กกล้องวงจรปิดจนเจอตัวคนที่พบสร้อย จึงเรียกร้องค่าเสียหายจากอีกฝ่าย ซึ่งศาลก็สั่งให้คนที่พบสร้อย ต้องจ่ายชดเชยแก่เจ้าของสร้อยตามที่ร้องขอ

          แต่ในเคสของนายหลี่ ศาลพบว่าทางฝั่งเจ้าของเงินไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเงินที่หายไปนั้น มีจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ อีกทั้งนายหลี่เองก็แจ้งตำรวจและนำเงินส่งให้ทันที ศาลจึงมีคำตัดสินให้นายหลี่เป็นฝ่ายชนะคดีไป

          เหตุการณ์นี้ กลายมาเป็นที่สนใจของสื่อและสังคมจีนนับตั้งแต่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่น “ถ้าคุณบังเอิญเจอของมีค่าบนถนน ควรถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วแจ้งตำรวจ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคต”
 
          “เคยมีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันที่มีคนเก็บของได้ แต่กลับต้องเป็นฝ่ายเสียเงิน ทั้งที่บางครั้งมันเป็นความเข้าใจผิด แต่ก็ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม”

ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14.vn  

หนุ่ม กรรชัย รีวิวความรู้สึกหลังทำข่าว แสตมป์ อภิวัชร์ ใน โหนกระแส ให้ภาพเล่าเรื่อง…พีคทุกชอต