11,344อ่าน
ผู้เขียน: admin
กองทัพบกไม่อยู่เฉย จ่อสอบปม แสตมป์ อภิวัชร์ – ภรรยา ถูกนายพลข่มขู่ คุกคาม
กองทัพบก ไม่อยู่เฉย จ่อตรวจสอบปมนายพลข่มขู่-คุกคาม แสตมป์ อภิวัชร์ แถมมาขึ้นศาลแทนลูก ย้ำลงโทษแน่ หากยังอยู่ในราชการ
จากปมร้อนเกี่ยวกับนักร้องดัง แสตมป์ อภิวัชร์
ออกมาเปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่ภรรยาสาว นิว จีริสุดา ถูกกล่าวหาและคุกคาม
จากผู้ไม่หวังดี ปล่อยข่าวเท็จ บุกรุกหลังเวที สร้างเรื่องแต่งสารพัด
จนไปขึ้นศาลและชนะคดี โดยระหว่างนั้นพบว่าพ่อของคู่กรณีซึ่งเป็นทหารยศนายพล
ได้มาขึ้นศาลแทนลูก แถมมีการข่มขู่ และบุกรุกบ้านแม่นั้น
ออกมาเปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่ภรรยาสาว นิว จีริสุดา ถูกกล่าวหาและคุกคาม
จากผู้ไม่หวังดี ปล่อยข่าวเท็จ บุกรุกหลังเวที สร้างเรื่องแต่งสารพัด
จนไปขึ้นศาลและชนะคดี โดยระหว่างนั้นพบว่าพ่อของคู่กรณีซึ่งเป็นทหารยศนายพล
ได้มาขึ้นศาลแทนลูก แถมมีการข่มขู่ และบุกรุกบ้านแม่นั้น
อ่านข่าว : แสตมป์ อภิวัชร์ เปิดใจเต็ม ๆ เหตุภรรยาถูกคุกคาม ขึ้นศาลแล้วไม่จบ ซ้ำเจอนายพลข่มขู่ !
ภาพจาก SarutaTa
ภาพจาก SarutaTa
ล่าสุด
(18 มกราคม 2568) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พันเอก ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ
โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์กรณี นายอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือ แสตมป์
เผยว่าถูกนายทหารชั้นพลตรีที่ จ.พิษณุโลก ข่มขู่ตนเองและภรรยา
ซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนได้ ยืนยันว่าทางกองทัพบกจะดำเนินการตรวจสอบ
แต่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากนายอภิวัชร์
หากเป็นเรื่องที่มีความร้ายแรงและเป็นจริง กองทัพบกจะดำเนินการต่อให้
หากเป็นทหารนอกประจำการ
จะถูกมองเป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องไปดำเนินการกันเองหรือไม่นั้น
หากฟังที่นายอภิวัชร์เผย โดยพื้นฐานแล้วตนมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
แต่หากเป็นทหารที่ยังอยู่ในประจำการ
แม้เป็นเรื่องส่วนตัวแต่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ก็จะต้องมีการสอบสวนทางวินัยและมีบทลงโทษ
ทั้งนี้ พันเอก ฐิต์รัชช์
ย้ำว่า หากนายอภิวัชร์ ต้องการให้กองทัพบกตรวจสอบก็ขอให้ส่งข้อมูลมา
เนื่องจากข้อมูลที่อยู่ในสาธารณะ ยังไม่มีความชัดเจน
พร้อมยืนยันว่ากองทัพบกพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ภาพจาก Instagram stampapiwat
ภาพจาก Instagram stampapiwat
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
คิมมินฮี ตั้งท้อง 6 เดือนกับ ฮงซังซู ผู้กำกับดัง ฝ่าดราม่าคบชู้
หนุ่ม กรรชัย โผล่คอมเมนต์ปมร้อน หลังคนถามหา บอกรู้มา 2 ปี ทีมเผือกปักหมุดรอ
คนถามหา หนุ่ม กรรชัย รอจัดปมร้อนข่าวดัง จนตัวโผล่คอมเมนต์งี้ ทำเอาโซเชียลถึงกับปักหมุด รอดูสรุปในโหนกระแส หลังพี่หน่วงบอกชัด รู้มา 2 ปีแล้ว
ภาพจาก Instagram kanchai
เป็นประเด็นดราม่าที่สังคมยังเกาะติด ไม่รู้จะพลิกไปกี่รอบ สำหรับกรณีของนักร้องหนุ่มชื่อดัง แสตมป์ อภิวัชร์ ที่ออกมาอ้างว่าภรรยาถูกคู่กรณีตามคุกคาม จนแฟนของคู่กรณีต้องออกโรงโต้ แฉมีการฟ้องคดีชู้สาว ไม่ใช่คุกคาม แถมยังมีเพื่อนของแสตมป์ออกมาเปิดข้อมูลเพิ่มเติม ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ของแสตมป์ ภรรยา และสาวคู่กรณี
อ่านข่าว : เพื่อนแสตมป์ พยานคดีชู้ ไม่โอเคเพื่อนเล่าไม่หมด เคยโกหกจนพาลเกลียดนิวไปด้วย
อ่านข่าว : แฟนคู่กรณี แสตมป์ ปาเอกสารคดีชู้สาว ดีเทลยิบ ลั่นที่อ้างว่าชนะคดี ไม่มีอยู่จริง
ด้านเพจดังหลาย ๆ เพจต่างออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีนี้ รวมถึงบางคนที่พูดถึง หนุ่ม กรรชัย พิธีกรข่าวรายการโหนกระแส ว่าได้จัดคิวพร้อมแล้วหรือไม่ พี่หนุ่มจะพูดถึงเคสนี้ยังไง เช่นเดียวกับเพจ ปลั๊กไทย by มหาชะนี ที่โพสต์ว่า “นี่รอเดาไดอะลอกพี่หน่วง ข่าวเที่ยงวัน อาจจะมีพูดว่า “ผมรู้มาสักพักแล้วแต่ผมยังไม่อยากพูด” …. ถ้าแกกลับมาจากเที่ยวแล้วอะนะ กลับมาเห๊อะ”
ภาพจาก Instagram kanchai
แต่งานนี้ไม่ต้องรอพี่หน่วงกลับมาในรายการ เมื่อเจ้าตัวได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบว่า “ไม่สักพักอ่ะ สองปีแล้ว ว่าแต่เราอ่ะได้นอนยัง”
เจอคอมเมนต์นี้ไป
ชาวเน็ตก็เข้ามากดไลก์กันสนั่น
พร้อมบอกเลยว่าจะรอฟังสรุปสถานการณ์จากโหนกระแสในวันพรุ่งนี้
รวมถึงถามเลยว่าพี่หนุ่มจัดเรื่องนี้วันไหน จะได้ลางานถูก
เพื่อนแสตมป์ อภิวัชร์ ไม่โอเคเพื่อนเล่าไม่หมด เคยโกหกจนพาลเกลียดนิวไปด้วย
เพื่อนแสตมป์ อภิวัชร์ หนึ่งในพยานคดีชู้สาว เปิดใจไม่โอเคแสตมป์เล่าไม่หมด ทำคนกระทบทั่ว เผยทำไมคนไม่อยากยุ่ง ทั้งที่รู้เกือบทั้งวงการ แฉเคยใส่ร้ายเมีย เพราะเอาเงินไปเลี้ยงคู่กรณี
ภาพจาก Instagram stampapiwat
จากดราม่าร้อนกรณีของ แสตมป์ อภิวัชร์ ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องภรรยาถูกคู่กรณีคุกคาม และสร้างเรื่องจนได้รับความเสียหาย จนมีคดีความฟ้องร้องที่ศาล แต่ต่อมา แฟนของคู่กรณีกลับออกมาเปิดเอกสารคดี พร้อมชี้ว่าไม่มีคดีการคุกคามใด ๆ แบบที่อ้าง แต่มีการฟ้องร้องกันในหลายคดี รวมถึงเรื่องชู้สาว ที่แฟนของตนไม่ออกมาพูดเพราะสภาพจิตใจพังทลายจากการโดนตามอาฆาต และส่งจดหมายไปตามที่ที่เคยทำงานเพื่อให้มีการเลิกจ้าง ไม่ให้พวกตนมีงานทำนั้น
ล่าสุด (19 มกราคม 2568) เพจ โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้ ซึ่งอ้างตัวเป็นเพื่อนของ แสตมป์ อภิวัชร์ และเป็นหนึ่งในพยานให้กับภรรยาของแสตมป์ ในคดีชู้สาว ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าว พร้อมข้อความแชตไลน์ ที่มีการพูดคุยกับแสตมป์ โดยระบุว่า…
ภาพจาก Instagram stampapiwat
ตนเองเป็นเพื่อนกับแสตมป์ และเป็นหนึ่งในพยานให้ นิว ภรรยาของแสตมป์ ในคดีชู้สาว แต่ไม่ถึงปากที่ให้ไปขึ้นศาล ยืนยันว่าตนไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับคู่กรณีสาวและแฟน แต่ตนเป็นคนกลางติดต่อคู่กรณีให้แสตมป์ ในช่วงเวลาที่เขาติดต่อกันเองไม่ได้
ไม่โอเค เพื่อนเล่าบนเวทีไม่หมดจนกระทบทั่ว
ตนรู้เรื่องราวเกือบทั้งหมดของปัญหานี้ แบบมีหลักฐานเป็นแชตทุกช่องทางกับแสตมป์ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นคำโกหกของเพื่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้ตนจะเป็นเพื่อนแสตมป์ แต่ก็รู้สึกไม่โอเคกับการเล่าบนเวที เพราะแสตมป์เล่าไม่หมด จึงเกิดความวุ่นวายในสังคม ศิลปินและหลายคนได้รับผลกระทบ ทั้ง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาของ 4 คนนี้เลย
ตนได้คุยไลน์กับแสตมป์ครั้งสุดท้าย หลังวันที่ 30 พฤษภาคม ไม่กี่วัน โดยให้ตนเช็ก IG คู่กรณี ว่าลบรูปบางอย่างไปหรือยัง ตนตอบไปแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกับแสตมป์อีกเลย จนเกิดเหตุพูดบนเวที ตนยังทักไลน์ไปว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมยังมีปัญหาอีก เห็นว่าจบ แยกย้ายต่างคนก็ใช้ชีวิตกันไปแล้ว
กลายเป็นว่าภรรยาของแสตมป์ ตอบไลน์มาว่า “ไม่ต้องห่วง ไว้ว่ากันกำลังมีคนโพสต์ด่าอยู่พอดี” แล้วไม่ตอบอะไรตนอีกเลย
ตนรอให้ฝั่งคู่กรณีได้โพสต์ก่อน เพื่อจะได้อธิบายว่าเป็นคดีชู้สาว ไม่ใช่เป็นเรื่องการคุกคามแบบซาแซงที่แสตมป์เล่าบนเวที
ถ้าบนเวทีแสตมป์เริ่มต้นว่า… ทุกคนครับ ผมนอกใจเมียผมเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่เมียผมจะจับได้ แล้วหลังจากนั้นจึงเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นครับ (อย่างที่พูดบนเวที) สารที่ประชาชนรับรู้ จะต่างไปจากตอนนี้ ไม่มากไม่น้อยอย่างแน่นอน อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ทัวร์ไปลงผิด ศิลปินหลายคนก็ไม่ต้องเกี่ยวข้องเลยแบบนี้
ภาพจาก Instagram stampapiwat
เหตุผลที่ไม่มีใครอยากยุ่ง แม้รู้กันเกือบทั้งวงการ
ความจริงตนก็ไม่เกี่ยวข้องเลย แต่ยอมที่จะแลกเพราะ ทำไมเรื่องความรักที่ไม่ปกติของ 4 คน ต้องมีผู้ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบแบบนี้ สังคมวุ่นวายไปหมด แฟนเพลงของแต่ละคนต้องมาปะทะกันเอง
อย่างที่ตนเคยทวีตไปว่า ไม่สงสัยเลยเหรอว่าศิลปินเกือบทั้งวงการทราบเรื่อง แต่ทำไมไม่มีใครอยากยุ่ง เพราะ
1. ทุกคนอาจมีแผล หากเข้ามายุ่งเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจถูกขุดแบบมั่ว ๆ ก็ได้ จึงเลือกที่จะเงียบเสียดีกว่า
2. ถ้าออกมาเทกแอ็คชั่นแล้ว แฟนเพลงฝ่ายนั้นไม่เชื่ออีก ก็กลายเป็นทำให้แฟนเพลงปะทะกันเองแบบที่เกิดขึ้นตอนนี้
3. ถ้าประชาชนรู้ว่าแสตมป์นอกใจเมีย คนที่พังคือตัวแสตมป์เอง
ในเมื่อไม่มีใครเล่าอะไรให้ชัดเจน (แบบไม่โกหก) ตนจึงขอใช้พื้นที่เพจ โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้ โพสต์แบบยาว ๆ เพื่อที่จะให้ทุกคนทราบ พฤติกรรมความไม่ปกติหลาย ๆ อย่างจากทั้งแสตมป์และนิว
ภาพจาก Instagram stampapiwat
ไม่กลัวถูกฟ้องกลับ – เปิดไลน์สารภาพคำโกหกของแสตมป์ เคยใส่ร้ายนิว
ตนไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องกลับจากฝ่ายใดเลย
หากตนยึดหลักพูดความจริงจากหลักฐานแชตทั้งหมด
หากถูกฟ้องจะต้องมีการพิสูจน์ก่อนว่าตนพูดเท็จ
แม้แชตจะเป็นเรื่องโกหกที่แสตมป์เล่ากับตนก็ตาม
ตัวอย่างแรก… แสตมป์เคยบอกตนว่า เขาไม่ได้เงินใช้เลย
เงินอยู่ที่นิวทั้งหมด เขาอยากสร้างบ้านใหม่ให้แม่ นิวก็ไม่ให้เงิน
เรื่องนี้แสตมป์บอกตนปี 2564 เลยทำให้ตนไม่ชอบนิว
แต่พอต้องขึ้นศาล ตนไปเล่าให้ทนายฟังแบบนี้
มีการบันทึกเทปไปให้นิวกับแสตมป์ฟังว่าผมพูดอะไรบ้าง วันต่อมา
แสตมป์มาขอโทษตนว่าเรื่องทั้งหมด เขาโกหกตนมาตลอด
ภาพจาก Instagram stampapiwat
โดยข้อความจากแชต แสตมป์สารภาพว่า
– จริง ๆ นิวให้เงินแม่แสตมป์เยอะมาก ๆ ปีละหลายแสน เกือบล้าน
– นิวให้เงินแสตมป์พกเยอะมาก แต่แสตมป์ต่างหากที่เอาไปเลี้ยงคู่กรณี
– นิวให้แสตมป์กลับบ้านได้ตลอดเวลา แต่แสตมป์เอาเวลาไปหนีเที่ยว ไปเจอคู่กรณี
“นิวไม่ได้ผิดอะไรเลย เป็นผมเองที่พยายามจะออกมาหา X เลยโยนความผิดให้เค้าครับ”
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้
ทั้งนี้ เพื่อนของแสตมป์ ระบุต่อว่า หากแสตมป์โกหกตนแบบนี้
แสตมป์ก็สามารถโกหกให้ นิว คู่กรณี และทุกคน เข้าใจผิดได้เช่นกัน
ขอจบเรื่องแรกเท่านี้ก่อน ไว้จะมาอธิบายความประหลาดอื่น ๆ อีก
หมายเหตุ :
1. ก่อนโพสต์นี้ ตนได้คุยกับ โอม Cocktail และวง Tilly Birds แล้วด้วย
เพื่อเช็กความข้อมูลฝ่ายเขา ตรงกับที่ตนได้รับจากแสตมป์ไหม ปรากฏว่า
ไม่ตรงกันหลายเรื่อง (ตอนนี้ทั้งหมดบินไปอเมริกาเมื่อคืนนี้)
2. ขอบคุณคุณ Art Eakarat ที่ให้คำปรึกษาด้วยครับ
ภาพจาก Instagram stampapiwat
ภาพจาก Instagram stampapiwat
ช้างตกใจเสียงพลุ วิ่งชน เหยียบคน เจ็บ 5 ราย งานกาชาดหนองบัวลำภู
นาทีระทึก ช้างตกใจเสียงพลุในงานกาชาดหนองบัวลำภู วิ่งชนคนล้ม ก่อนเหยียบบาดเจ็บ 5 ราย พบถูกพาเข้างานโดยไม่ขออนุญาต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก NongThangmo NongBow
วันที่ 19 มกราคม 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ช่วง 20.30 น. วานนี้ (18 มกราคม) เกิดเหตุการณ์ระทึกในพิธีเปิดงานสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กาชาดหนองบัวลำภู ประจำปี 2568 หลังมีช้างตื่นตกใจเสียงพลุ แล้ววิ่งชนคนได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ก่อนจะวิ่งออกจากงานหายไปในป่า ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร
คลิปขณะเกิดเหตุเผยให้เห็นช้างเชือกหนึ่งตกใจวิ่งไปชนคนเดินเป็นผู้ใหญ่กับเด็ก ล้มลงแล้วเหยียบบาดเจ็บ ก่อนวิ่งลึกเข้าไปในงานแล้วชนคนที่กำลังเดินอีกหลายคน โดยมีควาญช้างพยายามดึงหูให้หยุดแต่ไม่สำเร็จ ส่วนคนในงานต่างตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าติดตามไปควบคุมช้างที่ก่อเหตุ เป็นช้างสีดอ ชื่อขุนทอง อายุ 10 ปี พร้อมกับเจ้าของ ทราบชื่อคือ นายรัตนชัย และพวกอีก 2 คน มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู และนำช้างขึ้นไปล่ามไว้บนรถบรรทุก ซึ่งนายรัตนชัย แจ้งว่าเป็นรถของตน นำมาจากบ้านที่ จ.สุรินทร์ โดยปกติช้างขุนทองไม่เคยก่อเหตุแบบนี้มาก่อน เพิ่งเป็นครั้งแรก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก NongThangmo NongBow
ขณะที่ ตำรวจ
สภ.เมืองหนองบัวลำภู แจ้งว่า ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์
ให้ดำเนินคดีตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มเจ้าของช้าง
ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ไม่มีใบอนุญาตแสดงการเคลื่อนย้ายสัตว์เข้ามาในพื้นที่
และไม่มีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เจ้าของพื้นที่รับรอง
ด้าน
นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า
เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุ
โดยธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เข้าไปดูแลผู้บาดเจ็บ
จนทราบว่าอาการปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัด
ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของช้าง และทราบว่าก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า
มีผู้พบเห็นช้างมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ในจังหวัดหนองบัวลำภู
ทางเจ้าหน้าที่ได้ผลักดันไปแล้ว จู่ ๆ กลับมาโผล่ในงาน
จนเป็นเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
หมอสาว รพ. ดัง รถชนท้ายรถบรรทุก ดับทั้งชุดยูนิฟอร์ม พบคนงานเจ็บ 1 ราย
สลด แพทย์หญิงขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก ใต้ BTS กรุงธนบุรี เสียชีวิตทั้งยูนิฟอร์ม กระแทกแรงแขน-ขาหักหลายแห่ง รอญาติรับศพ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
วันนี้ (18 มกราคม 2568) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เมื่อเวลา 01.18 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำเหร่ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ SUV พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี ฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานตากสิน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ที่เกิดเหตุพบรถ SUV นี่ห้อนิสสัน อยู่ในสภาพพังยับเยิน หลังชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งเป็นของผู้รับเหมาดำเนินการติดตั้งฝาท่อปูน โดยผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ นายปณิธาน อายุ 22 ปี เป็นคนงานประจำรถที่คอยให้สัญญาณไฟ เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์
ขณะที่ผู้เสียชีวิตเป็นคนขับรถยนต์ SUV ทราบชื่อคือ น.ส.วิรินทร์ อายุ 28 ปี เป็นแพทย์อยู่โรงพยาบาลเลิศสิน สภาพศพแต่งชุดยูนิฟอร์มของแพทย์ แขนและขาหักหลายแห่ง
จากการสอบถาม นายประสาน อายุ 48 ปี
คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ เผยว่า ตนได้รับคำสั่งให้มาดำเนินการเปลี่ยนฝาท่อใหม่
ช่วงกลางถนน โดยจอดรถอยู่ฝั่งขวาสุดของช่องทาง
และมีการวางกรวยยางกับสัญญาณไฟ รวมถึงมีลูกน้องคอยให้สัญญาณไฟอยู่ท้ายรถ
โดยขณะเกิดเหตุตนกำลังเดินไปดูฝาท่อที่ต้องเปลี่ยน ก่อนจะได้ยินเสียงรถชน
และพบว่ารถคู่กรณีพุ่งชนกรวยยางและชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ
เบื้องต้น
ทางกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
เพื่อรอญาติติดต่อมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนทางคดี
พนักงานสอบสวนได้เชิญคนขับรถบรรทุกไปสอบสวนที่ สน.สำเหร่
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
ลูกค้าอึ้ง โรงแรม 5 ดาว เมนูรูมเซอร์วิส เกือบ 4 พัน สภาพพูดไม่ออก
ลูกค้าจะไม่ทน สั่ง รูมเซอร์วิส โรงแรม 5 ดาว ราคาเกือบ 4 พัน อึ้งกับสภาพที่มาเสิร์ฟ แถมรีวิวความอร่อยไม่ต้องพูดถึง
วันที่ 14 มกราคม 2568 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า ในโลกออนไลน์กำลังเกิดประเด็นร้อนแรง หลังมีลูกค้าเข้าพักที่โรงแรมหรู ระดับ 5 ดาว แต่ปรากฏว่าอาหารที่สั่งแบบรูมเซอร์วิส กลับเสิร์ฟมาในสภาพที่ดูไม่จืด แตกต่างจากราคาและค่าบริการโดยสิ้นเชิง
ประเด็นดังกล่าวถูกโพสต์โดยสมาชิก @JakeRM1 บนเว็บไซต์ Reddit โดยมีภาพของอาหาร 2 ชุด ถูกเสิร์ฟมาในกล่องพลาสติกสำหรับนำกลับบ้าน ด้านในมีเบอร์เกอร์ พร้อมด้วยมันฝรั่งทอด ซอสแบบซอง และเบียร์อีก 2 กระป๋อง โดยระบุแคปชั่นว่า “นี่คือหน้าตาเมนูราคา 110 ดอลลาร์ (ราว 3,800 บาท) ที่สั่งจากรูมเซอร์วิส”
เจ้าของเรื่องราวเผยว่าเขานั้นเข้าพักที่โรงแรมชื่อดัง ระดับ 5 ดาว ในอินเดียนาโพลิส สหรัฐฯ แต่ดูแล้วอาหารที่ได้รับ สภาพน่าจะใกล้เคียงกับสั่งอาหารเดลิเวอรี่ มากกว่าการสั่งรูมเซอร์วิสในโรงแรม 5 ดาว โดยนอกจากค่าอาหารแล้ว ยังมีค่าทิป 22% และค่าจัดส่งอีก 5 ดอลลาร์อีกด้วย โดยมองว่า โรงแรมนั้นควรหยุดเรียกการจัดส่งนี้ว่า “รูมเซอร์วิส” ไปซะ มันดูเหมือนการหลอกลวงว่าเป็นอะไรที่พรีเมียม มันย่ำแย่สุด ๆ
ประเด็นนี้ถูกแชร์ออกไป และนำมาซึ่งความคิดเห็นจาก แกรี่ เลฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว ได้พูดถึงการเสื่อมถอยของมาตรฐานในโรงแรมหรู เขามองว่า การบริการรูมเซอร์วิสที่เหมาะสมกำลังล่มสลายลงไป เป็นอะไรที่เลวร้ายมาก โรงแรมได้ตัดทอนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไปเยอะมาก รวมถึงเรื่องการทำความสะอาดห้อง จึงไม่แปลกใจเลยที่รูมเซอร์วิสจะคุณภาพถอยหลังลง ถ้าเป็นแบบนี้ การเข้าพักโรงแรมหรู จะแตกต่างกับการเช่า Airbnb ตรงไหน นอกจากเรื่องค่าทำความสะอาด ?
ขณะเดียวกัน นักเดินทางที่มีเคยได้เข้าพักในหลาย ๆ โรงแรม ต่างเข้ามาแชร์ประสบการณ์สุดเฟลของงานบริการในโรงแรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น
ภาพจาก Reddit
“ไม่แปลกใจเลย เคยเข้าพักโรงแรมนี้ สาขา ลาส เวกัส ก็แย่พอกัน”
” เทียบแล้วอาหารในโรงเรียนยังอร่อยกว่า ซึ่งอันนั้นคนทำก็ยังได้กำไรเลย แล้วทำไมในโรงแรมจึงเปลี่ยนไปเป็นอะไรแบบนี้”
” เคยเจอเมนูรูมเซอร์วิสจากโรงแรมนี้สาขาอื่นเช่นกันตั้งแต่ช่วงโควิด
ทำให้ปัจจุบัน ฉันจะไม่สั่งรูมเซอร์วิสจากโรงแรมไหนอีกเลย”
”
เป็นเรื่องดีมากที่โรมแรมมีป้ายบอกว่าจะเลิกใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเพื่อเรื่องสิ่งแวดล้อม
แต่พอสั่งรูมเซอร์วิส กลับใส่พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งมาให้จำนวนมาก
จึงมองว่าการเสิร์ฟเช่นนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นกับสิ่งที่เรียกว่า รูมเซอร์วิส
อีกต่อไป”
“นี่มันอาหารสั่งกลับบ้านที่โรงพยาบาลหรือยังไง มันช่างเหลวไหลสิ้นดี”
ต่อมา เจ้าของโพสต์ได้อัปเดตการพูดคุยภายหลังว่า
ผู้จัดการโรงแรมได้ติดต่อมาแสดงความความเห็นใจหลังทราบเรื่อง โดยเสนอส่วนลด
50% สำหรับอาหารมื้อราคาแพงดังกล่าว อย่างไรก็ดี
ลูกค้ารายนี้ก็ยังคงเดินหน้า รีวิวเมนูที่สั่งเป็นครั้งสุดท้าย โดยนิยามว่า
“ห่วยแตก” ความสุกก็ไม่ตรง สั่งมีเดียม กลับทำเนื้อมาสุกทั้งแผ่น
และมันฝรั่งทอดก็นิ่มอีก
ซึ่งต่อมาพบว่าทั้งสองเมนูได้ถูกนำออกจากรายการอาหารไปแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post
ผศ.ดร. ลาออก ปมให้หนุ่ม 17 ปี อมนกเขา แฉเหลี่ยมใส่จนโดนแจ้งจับ
คืบหน้า ผศ.ดร. อนาจารเยาวชนชายวัย 17 ปีในปั๊มน้ำมัน จ.ลำปาง ลาสุดเจ้าตัวลาออก ด้านเพจดังแฉปมเดือด ตกลง 2,000 จ่ายแค่ 200
ภาพจาก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ
จากกรณี เยาวชนอายุ 17 ปี ได้ไปเข้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณถนนสายลำปาง-แม่ทะ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ก่อนถูกชายอายุประมาณ 40 ปี สวมแว่นดำ เสื้อแขนยาวสีดำ สูงประมาณ 170 เซนติเมตร เดินตามเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นได้กระทำอนาจารด้วยการบังคับเยาวชนสำเร็จความใคร่ด้วยปาก โดยหลังเกิดเหตุพี่ชายผู้เสียหาย ได้พาน้องชายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นครแล้ว
วันที่ 17 มกราคม 2568 โหนกระแส รายงานว่า ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร เจ้าของพื้นที่ ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว โดยมีการเปิดเผยเบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็นถึง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. คนดังกล่าว ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มกราคม และไม่มาทำงาน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะตั้งคณะกรรมการทำการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ภาพจาก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ
ภาพจาก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ
อย่างไรก็ตาม มีการปล่อยข่าวออกมาว่า
ก่อนเกิดเหตุในครั้งนี้ได้มีการติดต่อผ่านแอปพลิเคชันในกลุ่มลับเฉพาะและมีการนัดหมายกัน
ซึ่งในเรื่องนี้ทางผู้เสียหายได้ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักแอปฯ ดังกล่าว
และไม่เคยเข้าไปอยู่ในกลุ่มแอปฯ ตามที่มีการปล่อยข่าวออกมาแต่อย่างใด
พร้อมยืนยันว่าเคยเห็นหน้าชายที่ก่อเหตุเป็นครั้งแรก
ด้านพี่ชายผู้เสียหายก็ยืนยันว่าน้องเป็นคนที่ไม่ไปไหน
เรียนเสร็จก็กลับบ้าน และเล่นเกมเท่านั้น
ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในลักษณะนั้นอย่างแน่นอน เพราะย่าเป็นคนเข้มงวด
ยืนยันว่าน้องชายไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแอปฯ ลามกนั้นแน่นอน
ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ เผยแชตซึ่งมีข้อความส่งมาว่า
พลาดเพราะโอนเงินไม่ครบ ตกลงกัน 2,000 โอนไป 200
เด็กมันตามจากชื่อบัญชีที่โอนเงินเข้า โดยเพจระบุว่า นั่นไง กูว่าแล้ว
กรณีหนุ่ม 17 ปี ที่…ในปั๊มน้ำมันกับอาจารย์มหาลัย
คือไปเหลี่ยมกับเด็กมันก่อน เด็กมันเลยเหลี่ยมกลับ แจ้งข้อหาหนัก
หมดกันหน้าที่การงาน ตามนี้…จนเสร็จ จ่าย 200 เป็นใครก็คงเคืองป่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส