คณะลูกขุนเมืองเลสเตอร์ มีคำตัดสิน กรณี ฮ. เจ้าสัววิชัย ตกที่สนามคิง เพาเวอร์ เมื่อ 6 ปีก่อน ระบุเป็นอุบัติเหตุ พบปัญหาที่ลูกปืนคู่ ระบบควบคุมใบพัดหาง
ภาพจาก OLI SCARFF / AFP
ความคืบหน้ากรณี เฮลิคอปเตอร์เลโอนาร์โด AW169 ตกที่สนามฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 เป็นเหตุให้ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เสียชีวิต พร้อมนักบินและผู้ติดตามอีก 4 คน ซึ่งทางเมืองเลสเตอร์ ได้เปิดการไต่สวนเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น โดยการไต่สวนจะดำเนินการโดยศาสตราจารย์แคทเธอรีน เมสัน ต่อหน้าคณะลูกขุน ณ ศาลากลางเมืองเลสเตอร์
อ่านข่าว : เมืองเลสเตอร์ เริ่มไต่สวนกรณีอุบัติเหตุ ฮ. คุณวิชัย ตก
ล่าสุด (28 มกราคม 2568) เว็บไซต์ Sky News รายงานว่า คณะลูกขุนมีคำตัดสินกรณีการเสียชีวิตของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา พร้อมนักบินและผู้ติดตามอีก 4 คน ว่าเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่ทางทนายความอาวุโส ฟิลิป เชพเพิร์ด ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวศรีวัฒนประภา กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตคือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ในอุบัติเหตุร้ายแรงที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
คณะลูกขุนได้รับฟังข้อมูลระหว่างการไต่สวน พบว่าขณะที่เฮลิคอปเตอร์ออกจากสนามฟุตบอลเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 เกิดความผิดพลาดที่ทำให้เฮลิคอปเตอร์หมุนเคว้งอย่างเสียการควบคุม ก่อนจะตกนอกสนามและระเบิดเป็นไฟ โดย จอน รุดกิน ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของเลสเตอร์ เผยว่าเฮลิคอปเตอร์เริ่มหมุนวน ก่อนจะดิ่งเอาหัวลงออกจากพื้นที่สนาม โดยที่เครื่องยังหมุนเคว้งกลางอากาศ
ภาพจาก Ian Kington / AFP
ระหว่างการไต่สวน ยังมีการแสดงภาพแอนิเมชันของความเสียหายที่เกิดขึ้นทางกล พบว่าลูกปืนคู่ที่ใบพัดหางของเฮลิคอปเตอร์เกิดการยึดและล็อก ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมจนหมุนเคว้ง ขณะที่ มาร์ก จาร์วิส ผู้ตรวจการของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (AAIB) ระบุว่า นักบินได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เครื่องตก
อนึ่ง รายงานของ AAIB ก่อนหน้านี้ สรุปสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกว่า มาจากความล้มเหลวของลูกปืนคู่และระบบควบคุมใบพัดหาง ซึ่งบริษัทเลโดอนาร์โดได้ระบุไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งหากเกิดการล้มเหลวจะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นหายนะ ความล้มเหลวดังกล่าวส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์สูญเสียการควบคุม และหมุนคว้างอย่างรุนแรงจนตกลงมาสู่พื้นดินก่อนเกิดไฟลุกไหม้ในที่สุด
ภาพจาก Ben STANSALL/AFP
การไต่สวนยังพบว่าทางตำรวจพยายามทุบกระจกเฮลิคอปเตอร์หลังเครื่องตก
แต่ไม่สามารถทำลายโครงสร้างที่แข็งแรงมาก
ซึ่งออกแบบมาเพื่อทนต่อการถูกนกชนด้วยความเร็ว 180 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งนี้
พบว่าผู้เสียชีวิต 1 ราย
เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บเมื่อเฮลิคอปเตอร์กระแทกพื้น ขณะที่อีก 4 คนนั้น
รอดจากการตกมาได้ แต่ต้องจบชีวิตจากการสูดควันไฟ
หลังจากคณะลูกขุนมีคำตัดสิน
นายเชพเพิร์ด ได้ออกแถลงการณ์นอกศาลากลางเมืองเลสเตอร์ กล่าวว่า
แม้ไม่มีส่วนใดในคำพิพากษาที่ระบุว่าใครคือผู้ที่ถูกกล่าวโทษต่อเหตุการณ์นี้
แต่พยานหลักฐานได้บอกเล่าเรื่องราวความล้มเหลวทางวิศวรรมพื้นฐานของ
บริษัทเลโดอนาร์โด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์
โดยสาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงข้อผิดพลาดในการออกแบบพื้นฐาน
และความล้มเหลวในการลดความเสี่ยงที่ทราบอยู่แล้ว
คณะลูกขุนก็ได้รับฟังหลักฐานจากการไต่ส่วน
ที่บ่งชี้ว่าจากการออกแบบดังกล่าว
โศกนาฏกรรมนี้เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่จะมีบางสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น
มันเป็นอุบัติเหตุที่รอเวลาเกิดขึ้น
ทั้งนี้
ทางครอบครัวยืนยันว่าจะยังเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหาย 2.15
พันล้านปอนด์ จากบริษัทเลโดอนาร์โด
โดยระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นเหมือน “กับดักแห่งความตาย” และ “อุบัติเหตุที่รอวันเกิดขึ้น”